ราชกิจจาฯ เผยแพร่การปรับพื้นที่โซนสีรับมือการแพร่ระบาดโควิดโอไมครอน

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่ง ศบค. ปรับพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รับมือโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เริ่ม 1 เม.ย.นี้

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 65 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 6/2565 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

เพื่อให้การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 (2) ของคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับ การปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19


โดยคำแนะนำของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

กระทรวงมหาดไทย จึงมีคำสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงาน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรการตามข้อกำหนดฯ สำหรับเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนด เป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคำสั่งนี้


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น


สั่ง ณ วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2565


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19

 

ราชกิจจาฯ เผยแพร่การปรับพื้นที่โซนสีรับมือการแพร่ระบาดโควิดโอไมครอน

 

ราชกิจจาฯ เผยแพร่การปรับพื้นที่โซนสีรับมือการแพร่ระบาดโควิดโอไมครอน

ราชกิจจาฯ เผยแพร่การปรับพื้นที่โซนสีรับมือการแพร่ระบาดโควิดโอไมครอน

 

ราชกิจจาฯ เผยแพร่การปรับพื้นที่โซนสีรับมือการแพร่ระบาดโควิดโอไมครอน

 

อ่านประกาศฉบับเต็ม