บุกรวบสาวใหญ่ท้ายเหมือง รับจ้างเปิดบัญชี 17 บัญชี เจอ 4 หมายจับ และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำนินคดีอีกหลายคดี

บุกรวบสาวใหญ่ท้ายเหมือง รับจ้างเปิดบัญชี 17 บัญชี เจอ 4 หมายจับ

วันที่ 17 มิ.ย.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย  รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป., ร่วมกันจับกุม น.ส.มารีย่า (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมายจับ คือ

 

บุกรวบสาวใหญ่ท้ายเหมือง รับจ้างเปิดบัญชี 17 บัญชี เจอ 4 หมายจับ

 

1.หมายจับศาลแขวงกระบี่ ที่ จ.53/2565 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกง
2.หมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 168/2565 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน
3.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.155/2565 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกง”
4.หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ 170/2565 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”

สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหารายนี้ได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยชักชวนให้ไปทำงานด้วยกัน ซึ่งอ้างว่าเป็นงานที่ได้ค่าตอบแทนง่าย เพียงแค่ไปเปิดบัญชีธนาคารในชื่อของตนเอง โดยจะมีค่าตอบแทนให้บัญชีละ 500-1,000 บาท หากเปิดเป็นจำนวนมากจะได้ค่าตอบแทนมากตามไปด้วย ผู้ต้องหานี้จึงได้ไปทำการเปิดบัญชีธนาคาร และบัตรกดเงินสด ตามธนาคารต่างๆ รวมแล้วทั้งสิ้นจำนวน 17 บัญชี 
 

จากนั้นเมื่อเปิดบัญชีเสร็จแล้ว ก็ได้นำบัตรกดเงินสด และสมุดบัญชี ไปมอบให้กับเพื่อนคนดังกล่าว เพื่อแลกกับค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง ต่อมา ได้มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่, สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และ สถานีตำรวจอื่นๆ อีกหลายแห่ง ว่าได้สั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ และถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาได้เปิดไว้ และไม่ได้รับสินค้าแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงได้เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตศาลออกหมายหมายจับ 

 

บุกรวบสาวใหญ่ท้ายเหมือง รับจ้างเปิดบัญชี 17 บัญชี เจอ 4 หมายจับ

 

ซึ่งปัจจุบันพบว่า น.ส.มารีย่าฯ ถูกออกหมายจับแล้ว จำนวน 4 หมายจับ และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำนินคดีอีกหลายคดี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.มารีย่าฯผู้ต้องหารายนี้ ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่ทราบว่าเพื่อนของตนได้นำบัญชีธนาคารและบัตรกดเงินสดไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด
 
เตือนภัย ตำรวจสอบสวนกลางจึงขอฝากเตือนภัยมายังประชาชนว่า ในปัจจุบัน ได้มีประชาชนบางส่วน หารายได้จากการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือยินยอมเปิดบัญชีธนาคารในชื่อของตนให้ผู้อื่นใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน โดยจะมอบสมุดบัญชีธนาคาร บัตรATM หรือซิมโทรศัพท์ที่มีการลงทะเบียน ให้กับผู้ว่าจ้างให้เปิดบัญชี หรือบุคคลอื่น จากนั้นจะนำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปใช้ในทางทุจริต เช่น รับโอนเงินจากการหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่น หรือรับโอนเงินการพนันออนไลน์ หรือจากการซื้อขายยาเสพติด  ซึ่งการกระทำดังกล่าว มีความผิด ตามกฎหมาย ฐานเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด และหากรู้ว่าผู้ที่นำบัญชีไปจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด เจ้าของบัญชีจะมีความผิดฐานฟอกเงินอีกด้วย