เปิดหลักเกณฑ์ใหม่ สกัดโควิดในที่ทำงาน มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 8 ก.ค. 65

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องมาตรการคุมโควิด-19 สถานประกอบการ มีผลตั้งแต่ 8 ก.ค. 65 เป็นต้นไป เพื่อให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตาม

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 65 น.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ และมาตรการด้านสุขลักษณะป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 สำหรับสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565


ซึ่งมีการลงนามโดย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.65 ที่ผ่านมา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 ก.ค. 65 เป็นต้นไป ซึ่งเนื้อหาในประกาศกำหนดให้ผู้ดำเนินกิจการต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และมาตรการด้านสุขลักษณะป้องกันควสามเสี่ยงโควิด-19 ดังนี้

1. ทำความสะอาดอาคารสถานประกอบกิจการ พื้น ผนัง ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยหรือสัมผัสร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์โดยสาร เป็นต้น


2. ทำความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้ ภาชนะ อุปกรณ์และเครื่องจักรเกี่ยวกับกระบวนการผลิต และการประกอบกิจการที่มีการสัมผัสบ่อย หรือสัมผัสร่วมกัน ก่อนและหลังประกอบกิจการ หรือให้บริการทุกครั้ง


3. จัดให้มีอ่างล้างมือพร้อมน้ำและสบู่อย่างเพียงพอ


4. มีมาตรการเว้นระยะห่างในพื้นที่ปฏิบัติงานและพื้นที่ให้บริการอย่างเหมาะสม


5. มีระบบระบายอากาศในอาการที่ดีและเพียงพอ


6. จัดให้มีภาชนะบรรจุ หรือภาชนะรองรับที่เหมาะสมและเพียงพอกับประเภทและปริมาณของมูลฝอย


7. จัดให้มีอุปกรณ์ทำความสะอาด น้ำยาทำความสะอาด สารฆ่าเชื้ออย่างเพียงพอ


8. กำกับ ดูแล ให้ผู้ปฏิบัติงานรักษาความสะอาดของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด และมีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี


9. สถานประกอบกิจการที่มีโรงอาหาร สถานที่รับประทานอาหาร หรือมีการให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ต้องจัดบริการที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย


10. กำกับ ดูแล คัดกรองผู้ปฏิบัติงาน หากพบว่า มีอาการป่วยหรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อให้พิจารณาหยุดปฏิบัติงาน


11. กำกับ ดูแล ให้ผู้ปฏิบัติงาน สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือชุดปฏิบัติงานที่เหมาะสม

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า สถานประกอบกิจการและผู้ดำเนินกิจการต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านสุขลักษณะและมาตรการป้องกันความเสี่ยงโควิด-19 เพิ่มเติม กรณีพบการแพร่ระบาดในสถานประกอบกิจการ จนกว่าจะพ้นระยะเวลาการแพร่เชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนี้


1. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ในบริเวณสถานประกอบกิจการ ที่คาดว่าพบผู้ติดเชื้ออยู่ในสถานประกอบกิจการนั้นทันที


2. เพิ่มการดูแลระบบ ระบายอากาศในสถานประกอบกิจการให้มีการถ่ายเทอากาศบริเวณที่พบผู้ติดเชื้อทันที และปรับปรุงระบบ ระบายอากาศให้ดียิ่งขึ้น


3. จัดให้มีระยะห่างระหว่างผู้ปฏิบัติงานในแผนกที่พบผู้ติดเชื้อ และแผนกที่เกี่ยวข้อง ไม่น้อยกว่า 1 เมตร


4. จัดการมูลฝอยประเภทที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย สารคัดหลั่ง ในแผนกที่มีผู้ปฏิบัติงาน เป็นผู้ติดเชื้อ และบริเวณที่เกี่ยวข้อง โดยจัดที่ทิ้งมูลฝอยติดเชื้อเป็นการเฉพาะ แยกเก็บรวบรวมและทำลายเชื้อโรค โดยใส่ถุงแดงสำหรับบรรจุมูลฝอยติดเชื้อ


แต่หากไม่มีถุงแดงต้องมีข้อความ "มูลฝอยติดเชื้อ" ปรากฎบนถุงบรรจุ มูลฝอยติดเชื้อ และให้เก็บรวบรวมแยกไว้เฉพาะตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด


ทั้งนี้ ผู้ดำเนินกิจการ ต้องประเมินตนเองด้านสุขลักษณะและมาตรการป้องกันความเสี่ยงโรคโควิด-19 ผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ตามที่กรมอนามัยกำหนดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ก่อนการต่อใบอนุญาต หรือในกรณีที่มีความเสี่ยง เพื่อการเฝ้าระวังความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 

เปิดหลักเกณฑ์ฉบับใหม่ สกัดโควิดในที่ทำงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 ก.ค. 65

 

เปิดหลักเกณฑ์ฉบับใหม่ สกัดโควิดในที่ทำงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 ก.ค. 65

 

เปิดหลักเกณฑ์ฉบับใหม่ สกัดโควิดในที่ทำงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 ก.ค. 65

 

เปิดหลักเกณฑ์ฉบับใหม่ สกัดโควิดในที่ทำงาน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 ก.ค. 65

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline