"ทนายตั้ม"เข้าช่วย น้องพอร์ส นักร้องวงyes indeed เผยเรื่องที่ครอบครัวไม่พอใจค่ายเพลงดังอย่างมาก ด้านน้องพอร์ส แถลงเปิดใจครั้งเเรก เป็นอิสระแล้ว


  คืบหน้ากรณี"น้องพอร์ส"นรากร อิสระวรางกูล  นักร้องนำวง yes indeed ที่จ่อโดนทางค่ายEXP Entertainment ยื่นฟ้อง ล่าสุดในวันที่ 20 ก.ค.65 ที่สำนักงาน sittra law firm "ทนายตั้ม"ษิทรา เบี้ยบังเกิด พา "น้องพอร์ส"นรากร ตั้งโต๊ะแถลงข่าว งัดหลักฐานโชว์สื่อย้ำชัด น้องพอร์สเป็นอิสระอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ด้าน"น้องพอร์ส"แถลงเปิดใจครั้งแรก 

   โดย"ทนายตั้ม"ษิทรา เบี้ยบังเกิด  ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ตนเป็นทนายความของน้องพอร์ส ซึ่งก็ได้รับหนังสือมอบอำนาจจากทางคุณพ่อของน้อง โดยน้องพอร์สก็มีความฝันว่สอยากจะเป็นนักร้อง ก็ได้เล่นเพลงเปิดหมวกมานานหลายปีแล้ว และก็มีเหล่าเเฟนคลับติดตามจำนวนมาก

ทนายตั้ม แฉจุดแตกหัก ครอบครัวน้องพอร์สไม่พอใจค่าย ให้ใส่กางเกงบ๊อกเซอร์

พอเดือนมิถุนายน 2564 ก็เริ่มที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับทางค่ายแล้ว และคุณพ่อก็ได้มีการคุยกับทางค่ายหลายเรื่องในการเข้ามาเป็นนักร้อง ทั้งเรื่องการสอนร้องเพลง ฝึกพัฒนาบุคลิกภาพ จนถึงวันทำสัญญาและหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว น้องก็ได้มีการไปถ่ายเก็บชู้ตติ้ง ประกอบกับทางค่ายได้มีการทำยูทูปและร่วมกันทำtik tok 

ทนายตั้ม แฉจุดแตกหัก ครอบครัวน้องพอร์สไม่พอใจค่าย ให้ใส่กางเกงบ๊อกเซอร์

ซึ่งครอบครัวของน้องพอร์สก็ได้มีการพูดคุยว่าจะยกเลิกสัญญามาตั้งนานแล้ว เนื่องจากค่ายไม่ได้ทำตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งการสอนฝึกร้องเพลง การช่วยหาที่เรียน เป็นต้น

 

   โดยเรื่องที่ครอบครัวน้องพอร์สไม่พอใจเป็นอย่างมากคือ ทางค่ายให้น้องถ่ายคลิปใส่กางเกงบ็อกเซอร์ แต่น้องไม่ยอมใส่และเพื่อนก็ได้ใส่แทนไป ซึ่งครอบครัวก็พยายามที่จะไปคุยขอยกเลิกสัญญา

 


    ทนายตั้ม กล่าวด้วยว่า น้องมาเล่นเพลงเปิดหมวก โดยเล่นหลายที่มากๆ ก็เลยมีคนติดตามมากขึ้น จนมีวันหนึ่งน้องไปเล่นเพลงเปิดหมวก ในวันที่ 3 มิถุนายน 2565 จนน้องมีชื่อเสียงมากขึ้น และจากนั้นทางค่ายก็เริ่มที่จะมีการเคลื่อนไหวและบอกว่าน้องพอร์สเป็นศิลปินในค่ายทั้งที่คุณพ่อของน้องพยายามที่จะยกเลิกสัญญามาตั้งนานแล้ว โดยให้เหตุผลว่าทางค่ายไม่ได้มีการส่งเสริมหรือตั้งใจจะปั้นน้องจริงๆ 

   นอกจากนี้ทางค่ายไม่เคยสนับสนุนอะไรให้น้องเลย ไม่ว่าจะเรื่องค่าอุปกรณ์ดนตรี หรือ ค่าเสียผ้า แต่พอน้องเริ่มมีชื่อเสียง ทางค่ายก็ได้ออกประกาศมาว่าจะต้องติอต่องานน้องผ่านทางค่ายเท่านั้น

ทนายตั้ม แฉจุดแตกหัก ครอบครัวน้องพอร์สไม่พอใจค่าย ให้ใส่กางเกงบ๊อกเซอร์

ส่วนเรื่องสัญญาของค่ายที่ทำนั้น ทนายตั้ม กล่าวว่า ทางค่ายได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว เพราะในสัญญาไม่ได้ระบุไว้เลยว่าน้องจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง โดยสัญญาเหมือนเป็นการปิดโอกาสของน้อง เพราะน้องมีชื่อเสียงด้วยตัวของน้องเอง ไม่ได้เกี่ยวกับทางค่ายเลย

ทนายตั้ม แฉจุดแตกหัก ครอบครัวน้องพอร์สไม่พอใจค่าย ให้ใส่กางเกงบ๊อกเซอร์

   ซึ่งตนได้ทำหนังสือยกเลิกสัญญาตามกฎหมายส่งไปทางค่ายแล้ว และขอย้ำว่า ทางค่ายหมดสิทธิ์ที่จะมาอ้างสัญญาแล้ว พร้อมย้ำว่าถ้าต่อจากนี้ทางค่ายจะออกมาแถลงข่าวอะไรที่ส่งผลกระทบต่อน้องอีก ตนในฐานะทนายความจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมฝากถึงน้องๆ ที่มีความฝันในเส้นทางบันเทิงถ้าถูกเอาเปรียบก็สามารถมาเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้องได้ พร้อมย้ำว่าขณะนี้น้องพอร์สเป็นอิสระแล้ว


ด้าน น้องพอร์ส แถลงเปิดใจครั้งแรก ว่า ตนรู้สึกว่าไม่มีตัวตนแต่พอมาเล่นเปิดหมวกที่สยามถึงจะมีการเคลื่อนไหวจากทางค่ายและดูเหมือนค่ายพยายามจะเร่งงานและเพลงของตนมากขึ้น 

ทนายตั้ม แฉจุดแตกหัก ครอบครัวน้องพอร์สไม่พอใจค่าย ให้ใส่กางเกงบ๊อกเซอร์

  ซึ่ง น้องพอร์ส กล่าวว่าเรื่องแรกที่คุณพ่อพูดว่าจะขอยกเลิกสัญญาคือ เรื่องที่เรียนที่ทางค่ายตกลงไว้ว่าจะหาที่เรียนมหาวิทยาลัยให้ แต่ผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งขณะนี้ทางค่ายยังไม่ได้มีการติดต่อมาพูดคุยแต่อย่างใด โดยตอนนี้ก็สบายใจขึ้นและจะได้ทำตามความฝันในการร้องเพลงต่อไป

ชมคลิป

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline