ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่7 หญิงไทยมีประวัติใกล้ชิดกับชายต่างชาติผิวสี

ประเทศไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลืงรายที่ 7เเล้ว โดยผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานรรายที่ 7 เป็นหญิงไทย อาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร

    28 ส.ค.65 ประเทศไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลืงรายที่ 7เเล้ว  โดย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสถาบันบำราศนราดูร ว่าพบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานรรายที่ 7 เป็นหญิงไทย อาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการสอบสวนโรคในวันที่ 27 สิงหาคม 2565 พร้อมค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมรวมถึงแนะมาตรการป้องกันควบคุมโรคให้กับผู้เสี่ยงสูงและผู้ที่เสี่ยงต่ำ


   ประวัติของผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่7  เป็นเพศหญิงสัญชาติไทย อายุ 37 ปี มีโรคประจำตัว อาศัยอยู่บ้านคนเดียวที่กรุงเทพฯ ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ฟันแทะ และไม่ได้ไปประเทศที่มีการระบาด พบประวัติมีเพศสัมพันธ์กับชายต่างชาติผิวสีก่อนมีอาการป่วย ซึ่งจากการสอบสวนโรคและเวชระเบียนของสถาบันบำราศนราดูรพบว่า ในระยะ 3 สัปดาห์ก่อนป่วย ไปเที่ยวย่านบันเทิงที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ  

 

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่7 หญิงไทยมีประวัติใกล้ชิดกับชายต่างชาติผิวสี

จากนั้นวันที่ 20 ส.ค. 65 ผู้ป่วยเริ่มมีไข้ต่ำๆ  วันที่ 21 ส.ค. 65 เริ่มมีตุ่มเหมือนหนองขนาดเล็กบริเวณทวารหนัก หลังจากนั้นในวันที่ 22 ส.ค. 65 เริ่มมีตุ่มหนองลักษณะเดียวกันผุดมากขึ้นเริ่มจากนิ้วมือ แขน หลัง และลามไปที่ใบหน้ารวมถึงอวัยวะเพศ อาการเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยจึงเข้ารับการรักษาในสถาบันบำราศนราดูร  
 

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่7 หญิงไทยมีประวัติใกล้ชิดกับชายต่างชาติผิวสี
 ต่อมาวันที่ 26 ส.ค. 65 แพทย์ทำการ เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการจากเลือด ตุ่มหนอง และลำคอ ด้วยวิธีการ Real-time polymerase chain reaction (Real-time PCR) ส่งตรวจไปยังกลุ่มงานเอชไอวีขั้นสูงและเชื้ออุบัติใหม่ สถาบันบำราศนราดูร และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลพบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสฝีดาษวานรในทุกสิ่งส่งตรวจ นอกจากนี้ ผู้ป่วยรายดังกล่าวมีประวัติไปเยี่ยมญาติสูงอายุ ทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 3 ราย จึงกำชับให้หน่วยงาน ในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ติดตามเฝ้าระวังอาการผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงทั้ง 3 รายอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันที่สัมผัสผู้ป่วยวันสุดท้ายคือวันที่ 21 ส.ค. 65 และจะครบกำหนดระยะเฝ้าระวังในวันที่ 11 ก.ย. 65

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม thainewsonline