ครอบครัวสะอื้น รับร่างเด็กหญิง 7 ขวบ แม่ขอโทษลืมใส่หมวกกันน็อคให้

วันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ครอบครัวเด็กหญิง 7 ขวบมารับศพ บอกยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ด้านคุณตา อยากให้คนขับรถยนต์สีเขียวออกมาชี้แจงและพบตำรวจหลังตำรวจเตรียมออกหมายเรียก เชื่อมาชนรถจักรยานยนต์จนทำให้เสียหลัก
 

ช่วงบ่ายวันนี้ แม่ คุณตา และ คุณยาย ผู้ปกครองของ เด็กหญิง ปัทมพร แสงสังข์  หรือ น้องมีนา อายุ 7 ปี ที่ถูกรถเมล์ทับศีรษะจนเสียชีวิต ที่บริเวณ ปากซอยกำนันแม้น ซอย 5 ได้เดินทางมารับศพของน้องมีนา ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช โดยครอบครัวได้ถือรูปภาพ และนำชุดนักเรียนของน้องมีนา มาให้เจ้าหน้าที่นำไปใส่ให้น้องเป็นครั้งสุดท้าย และทางครอบครัวยังได้นิมนต์พระจากวัดสิงห์มาสวดบังสกุลก่อนจะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

จากการสอบถาม นางสาว ลักษมี แสงสังข์ แม่ของน้องมีนา บอกว่าตอนนี้ยังอยู่ในอาการเศร้าโศก และยังทำใจกับการสูญเสียไม่ได้ เธอเล่าว่า วินาทีที่เกิดเหตุนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก เธอพยายามจะเอื้อมมือไปคว้าลูกสาวแล้ว แต่ไม่ทันจริงๆ ทำให้ลูกสาวหล่นจากรถและถูกกับล้อรถเมล์

เธอยังเล่าอีกว่า เธอเลี้ยวขวาออกจากซอยกำนันแม้น 5 ออกมาจนพ้นแล้วเธอจะขี่ตรงไปเพื่อหาจังหวะเบี่ยงเข้าเลนซ้ายตามเลนจักรยานยนต์ปกติ แต่พอเธอเลี้ยวออกจากซอยก็รู้สึกว่า รถจักรยานยนต์ถูกเฉี่ยวจากทางซ้าย และทำให้รถจักรยานยนต์เธอเซ เธอตกใจจึงเบรคกระทันหัน และลูกสาวที่นั่งอยู่หน้าเธอล้มลง อีกทั้งวันเกิดเหตุ เธอยอมรับว่าลืมที่จะสวมหมวกกันน็อคให้ลูกสาว แต่โดยปกติแล้วจะสวมมีเพียงแค่วันเกิดเหตุที่ลืมหยิบมาให้ 
 

ขณะที่ นายยุทธพล อ่อนประไพ ตาของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ บอกว่า ตอนนี้ยังทำใจกันไม่ได้ ทุกครั้งที่นึกถึงหลานสาวก็จะร้องไห้ อย่างเช่น เมื่อเช้านี้ปกติจะทำอาหารให้หลานทาน แต่วันนี้กลับทำไม่ได้ต้องเรียกผ่านรูปแทน 

นอกจากนี้คุณตายังติดใจ เนื่องจากไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดก็สังเกตเห็นว่า รถยนต์คันสีเขียวที่ขับตามรถจักรยานยนต์ ขับกินเลนขวามากเกินไป เมื่อเทียบกับรถยนต์คันอื่นๆที่วิ่งก่อนหน้า จะสังเกตเห็นจากฝาท่อบนถนน (คันอื่นขับคร่อมไป แต่ คันเขียวขับเบี่ยงไปทางขวา) คาดว่าคนขับรถยนต์คันสีเขียวคงมองแต่รถจักรยานยนต์ฝั่งซ้าย ทำให้ไม่เห็นฝั่งขวา 

และเมื่อกลับไปสำรวจรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุ ก็พบว่ามีลอยถลอกคล้ายถูกการเฉี่ยวชน ซึ่งเป็นรอยฝั่งซ้ายอยู่ด้านท้ายของรถ ซึ่งเป็นรอยใหม่ ที่เพิ่งเกิดขึ้น และล่าสุด ตำรวจได้ออกหมายเรียก ชายที่คับรถยนต์คันสีเขียวมาแล้วเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง 

โดยนายยุทธพล ได้บอกว่าอยากให้เจ้าของรถยนต์คันสีเขียวออกมาพบตำรวจ ออกมาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะขณะที่เกิดเหตุ คนขับรถสีเขียว พูดเพียงแค่ว่า สาเหตุที่รถจักรยานยนต์ล้มเพราะไปชนกับรถจักรยานยนต์สีขาว ซึ่งในความจริงแล้ว ไม่มีรถจักรยานยนต์มนฝั่งขวาเลย ตนเองมองว่าเป็นการอ้างขึ้นมาลอยๆ เพราะหลังเกิดเหตุทุกคนโฟกัสที่หลานสาวและรถเมล์จึงทำให้ไม่ได้สังเกตว่ารถยนต์คันสีเขียวขับหายไป

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline