เด้ง ผู้การทางหลวง เซ่นปม"ส่วยสติกเกอร์"ร้อนฉ่า

ผบช.ก. สั่งเด้งด่วน พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้การตำรวจทางหลวง เซ่นปมร้อน ส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์


   กรณีประเด็นร้อนเกี่ยวกับ ส่วยสติกเกอร์ หรือ สติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก สะเทือนไปยังตำรวจทางหลวง ทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.คร. มีคำสั่งให้ พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีสติกเกอร์รถบรรทุก หลังมีการร้องเรียนจาก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ได้เปิดโปงข้อมูลดังกล่าว

เด้ง ผู้การทางหลวง เซ่นปม"ส่วยสติกเกอร์"ร้อนฉ่า


  จากประเด็นร้อนฉ่าส่วยรถบรรทุก ล่าสุด วันที่ 30พ.ค.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้ลงนามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 172/2566 ลงวันที่ 30 พ.ค.2566 ให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.)  ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

เด้ง ผู้การทางหลวง เซ่นปม"ส่วยสติกเกอร์"ร้อนฉ่า

   โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม พร้อมกันนี้ ยังได้ลงนามคำสั่งที่ 173/2566 ลงวันที่ 30 พ.ค.2566 ให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน ผบก.ทล. อีกตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง


 

เด้ง ผู้การทางหลวง เซ่นปม"ส่วยสติกเกอร์"ร้อนฉ่า

 พร้อมมีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องทั้งหมดเป็นไปด้วยความโปร่งใส

 

 ด้าน พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือสั่งการแต่งตั้งให้ตรวจสอบกรณีสติกเกอร์รถบรรทุกจากพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่มีการร้องเรียนจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นผู้ออกมาเปิดโปงข้อมูลดังกล่าว

พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ

โดยได้สั่งการให้จเรตำรวจทั่วประเทศลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆ อีกทั้งยังจะต้องมีการเชิญนายวิโรจน์ และนายกสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย รวมทั้งตำรวจทางหลวงที่ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการรับส่วยเข้ามาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งกระบวนการตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการเชิญคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเรื่องตำรวจหรือ ก.ร.ตร. ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ ตำรวจระดับผู้บัญชาการขึ้นไป ผู้แทนระดับจังหวัดของสภาองค์กรชุมชนตำบล และจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ

พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ

รวมทั้งหมด 10 คนมาร่วมพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าว โดยเชื่อมั่นว่าการตรวจสอบจะมีความเข้มข้น และภายหลังจากคณะกรรมการฯมีมติแล้วจะมีบทลงโทษที่ชัดเจน และจะส่งเรื่องไปให้กับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาลงโทษทันที คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 15 วัน

 

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่านายวิโรจน์จะไม่เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลที่ได้เคยเปิดโปงไว้ ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยจะนำพยานหลักฐานต่างๆที่จเรตำรวจได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศรวบรวมมาให้กับคณะกรรมการฯพิจารณา หากพบว่ามีมูลความผิดก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับตำรวจทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง