ทีมกม.แจงแล้ว ดราม่า ปังชา มั่นใจใช้ได้คนเดียว ไม่ได้จะฟ้องแค่อยากให้หยุด

ล่าสุดกรณีดราม่าร้านดัง ปังชา จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและมีการส่ง Notice ไปยังร้านอื่นๆที่ใช้ชื่อร้านว่า ปังชา หรือมีคำว่า ปังชา เรียกเงินกว่า 102 ล้าน วันนี้ทีมจดทะเบียนได้ชี้แจงแล้ว

จากกรณีดราม่าร้านดัง "ปังชา" ล่าสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอได้โฟนอินคุยกับทีมจดทะเบียนของทางร้านดัง ซึ่งทางตัวแทนได้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปและเจตนาของทางร้าน ขอบเขตความคุ้มครองที่ร้านต้องการ มั่นใจคำว่า "ปังชา" ร้านใช้ได้เจ้าเดียว

 

ทีมกม.แจงแล้ว ดราม่า ปังชา มั่นใจใช้ได้คนเดียว ไม่ได้จะฟ้องแค่อยากให้หยุด

ทีมกม.แจงแล้ว ดราม่า ปังชา มั่นใจใช้ได้คนเดียว ไม่ได้จะฟ้องแค่อยากให้หยุด

 

โดยทางทีมจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเผย ยอมรับว่า "ปังชา" เป็นคำสามัญใช้ได้ทั่วไปอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ทว่าเมื่อ 2561 ร้านได้ ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และขอสละสิทธิ์ตัวอักษรโรมันคำว่า "PANG CHA THE BEST THAI TEA" ใครๆก็ใช้ได้ แต่โลโก้ทั้งหมดยังเป็นสิทธิ์ของร้าน

สาเหตุที่จดทะเบียนเพราะเจ้าของร้านอยากสร้างแบรนด์ของตัวเองและได้รับคำแนะนำจากนายทะเบียนว่าต้องไปทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก "ถ้าพูดถึงคำว่าปังชา ต้องนึกถึงคุณ"
 

ทีมกม.แจงแล้ว ดราม่า ปังชา มั่นใจใช้ได้คนเดียว ไม่ได้จะฟ้องแค่อยากให้หยุด

 

หลังปี 2565 กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้สละสิทธิ์อักษรโรมันคำว่า "THE BEST THAI TEA" ซึ่งมีความหมายว่าชาไทยดีที่สุดใช้คนเดียวไม่ได้ แต่ไม่มีการสละสิทธิ์คำว่า "PANG CHA" จึงตีความไปทางไหนไม่ได้ นอกจากว่าเราได้รับสิทธิ์คำนี้ และตามกฎหมายเครื่องหมายการค้า ย้อนไปได้ถึงวันจดทะเบียน 28 ก.ย. 65

จึงมั่นใจตามเอกสารกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่าคำว่า "PANG CHA" ทางร้านใช้ได้คนเดียว

เรื่องความคุ้มครองที่ทางร้านต้องการนั่นคือ

- ให้คุ้มครองเมนูที่ร้านคิดออกมา ห้ามใครใช้ชื่อเมนูว่า "ปังชา" แต่ไม่มีเจตนาห้ามใครผลิตน้ำแข็งไสใส่ชา

- ใครจะใช้ชื่อบริการร้านอาหาร ตั้งชื่อร้านด้วยชื่อ "ปังชา" ไม่ได้ 

 

ทีมกม.แจงแล้ว ดราม่า ปังชา มั่นใจใช้ได้คนเดียว ไม่ได้จะฟ้องแค่อยากให้หยุด

 

สำหรับการยื่น Notice ร้านอื่น คือไม่ได้มีเจตนาจะเรียกเงินเขา คิดแค่ว่าทำยังไงให้ยุติเขาได้ โดยไม่ต้องให้ใครต้องเสียหาย รายละเอียดของ Notice จริงๆเป็นการเจรจา เอกสารเนื้อหารุนแรงไป ยอมรับว่าอาจเป็นความผิดพลาดของคนออกเอกสาร ตัวเลขค่าเสียหาย 102 ล้าน ทางร้านกำหนดมาให้ ทีมกฎหมายก็ใส่ไป แต่ยืนยันว่าไม่ตั้งใจจะเรียกเงิน ซึ่งทำด้วยฐานที่คิดว่าเรา "มีสิทธิทำได้ ใช้คนเดียว" 

ทั้งนี้ทีมจดทะเบียนพูดในตอนท้ายว่า "แต่ตอนนี้พอไม่ได้ข้อยุติคือใครจะใช้ก็ใช้ไปแล้วกัน" และสำหรับร้านที่เชียงรายและหาดใหญ่ที่มีข่าวได้รับ  Notice มีหนังสือตอบกลับมาแล้วทางร้านไม่ได้ติดใจอะไรต่อ