ศาลรับฟ้องคดี ชูวิทย์ ดูหมิ่นซึ่งหน้า สันธนะ

ศาลเเขวงพระนครใต้รับฟ้องคดี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ดูหมิ่นซึ่งหน้า ‘สันธนะ ประยูรรัตน์’ ศาลนัดคุ้มครองสิทธิ 21 ธ.ค.นี้ 

เมื่อวันที่ 4พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลเเขวงพระนครใต้ ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1614/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักธุรกิจสถานบันเทิงชื่อดัง ในความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้าเเละด้วยการโฆษณา 

 

ศาลรับฟ้องคดี ชูวิทย์ ดูหมิ่นซึ่งหน้า สันธนะ

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่  9 พ.ย.65 จำเลยดูหมิ่น ซึ่งหน้า นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจนอกราชการ ผู้เสียหาย และด้วยการโฆษณาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจกับสื่อมวลชนจำนวนมากในที่เกิดหตุ ซึ่งมีถ่ายทอดออกอากาศซึ่งภาพและเสียงเผยแพร่ดังกล่าวแก่ประชาชนทั่วไป

โดยจำเลยพูดข้อความดูหมิ่นผู้เสียหายด้วยถ้อยคำว่า "...เป็น…ไรมึง มึงแน่มากนักใชไหม ไอ้..." เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชังว่าเป็นคนไม่ดี การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฝ่าฝืนต่อ
กฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 

ต่อมา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.66 จำเลยเข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยทราบ และทำการสอบสวนแล้ว
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธระหว่างสอบสวนจำเลยไม่ถูกควบคุมตัว 

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องจำเลยต่อศาล พนักงานสอบสวนส่งตัวจำเลยมายังพนักงานอัยการเกินกว่ากำหนดเวลาผัดฟ้อง เป็นเหตุให้คดีขาดผัดฟ้อง จึงขออนุญาตฟ้องจำเลยนี้ต่ออัยการสูงสุด และรองอัยการสูงสุดซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมาย ได้อนุญาตให้ฟ้องแล้ว จึงได้ส่งตัวจำเลยมาศาลเพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป 

ศาลรับฟ้องคดี ชูวิทย์ ดูหมิ่นซึ่งหน้า สันธนะ

โดยวันนี้จำเลยเดินทางมาตามนัดส่งฟ้องต่อศาล
ศาลสอบถามจำเลยเรื่องทนายความแล้ว จำเลยประสงค์จะตั้งหนายความเอง จึงให้จำเลยตั้งทนายมาให้พร้อมในวันนัด ให้จำเลยแจ้งทนายความ
เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวด้วย
ลอ่านและธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วและได้ดำเนินกระบวนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยอธิบายสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ตลอดจนแนวทางในการบรรเทาความเสียหายแก่ผู้เสียหายให้จำเลยทราบแล้ว

โดยศาลนัดคุ้มครองสิทธิฯในวันที่ 21 ธ.ค.เวลา10.00 น. โดยภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้องวันนี้จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราว