"อาจารย์เอ จักรพรรดิ"แจงแล้ว ดราม่าหมอบกราบ ทุกคนนั่งพนมมือไหว้ ปูพรมแดง

เปิดสำนักเทวาลัย "อาจารย์เอ จักรพรรดิ" เปิดใจพูดหมดทุกเรื่องราว แจงดราม่าคลิปลูกศิษย์ก้มหมอบกราบ เรื่องพรมแดง และ จุดเริ่มต้นของการมาเป็น"อาจารย์เอ จักรพรรดิ"

กรณีคลิปที่ทาง เพจอีซ้อขยี้ข่าว ได้เผยเหตุการณ์คนแห่หมอบกราบ "อาจารย์เอ จักรพรรดิ" พร้อมตั้งคำถาม ทำไมต้องหมอบกราบ? เค้าคือใคร...อยู่วรรณะไหน? ซึ่งจะเห็นชายรายหนึ่งในชุดสีฟ้านั่งรถหรูหรามีคนประกบดูแลใกล้ชิดคอยถือร่มให้อีกทั้งยังมีพรมปูรอรับจากรถท่ามกลางผู้คนที่นั่งพนมมือไหว้ต้อนรับบางรายมีพวงมาลัยมามอบให้ ซึ่งบุคคลดังกล่าว คือ อ.เอ จักรพรรดิ  ซึ่งหลายๆคนก็สงสัยและอยากรู้ถึงประวัติความเป็นมาของอ.เอ จักรพรรดิ

ล่าสุด13 มี.ค. 67 เวลา 11.00 น. อาจารย์เอ จักรพรรดิ เปิดสำนักเทวาลัย ให้สื่อมวลชนได้ซักถามข้อเท็จจริง และได้มีการทำความรู้จักกับอาจารย์ พร้อมเปิดประวัติความเป็นมา รวมไปถึงชี้แจ้งประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น

"อาจารย์เอ จักรพรรดิ"แจงแล้ว ดราม่าหมอบกราบ ทุกคนนั่งพนมมือไหว้ ปูพรมแดง

"อาจารย์เอ จักรพรรดิ เผยว่า ตนเป็นอาจารย์และเป็นคนๆนึง ที่เกิดมาเหมือนคนทั่วไป เกิดจากครอบครัวชาวนา พ่อของอาจารย์มีตาข้างเดียวแล้วก็เลี้ยงอาจารย์มาอย่างดี ให้การศึกษามาโดยตลอด อาจารย์เกิดมาไม่ได้มีโอกาสในชีวิตมากมาย จึงพยายามที่จะทำงานทุกอย่างที่สามารถทำได้ ต่อสู้ชีวิตมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานร้านเช่า VCD ตั้งโต๊ะขายโทรศัพท์ ขายเสื้อผ้า ร้านเสริมสวยต่างๆ แต่ที่คนรู้จักอาจารย์มากที่สุดน่าจะเป็นช่วงที่ขายสบู่นีออน 

"อาจารย์เอ จักรพรรดิ"แจงแล้ว ดราม่าหมอบกราบ ทุกคนนั่งพนมมือไหว้ ปูพรมแดง

สำหรับประเด็นดราม่าอ.เอ จักรพรรดิ ใน เพจอีซ้อขยี้ข่าว แชร์คลิปคนแห่หมอบกราบ "อาจารย์เอ จักรพรรดิ" พร้อมตั้งคำถาม ทำไมต้องหมอบกราบ? เค้าคือใคร...อยู่วรรณะไหน? นั้น อาจารย์เอจักรพรรดิได้กล่าวชี้แจงคลิปจากภาพที่มีการกราบไหว้

"อาจารย์เอ จักรพรรดิ"แจงแล้ว ดราม่าหมอบกราบ ทุกคนนั่งพนมมือไหว้ ปูพรมแดง

 

  • ประเด็นหมอบกราบ คลาน

อย่างแรกอาจารย์ขออธิบายว่าอาจารย์ไม่เคยมีกฎระเบียบว่าทุกคนมาถึงแล้วต้องกราบไหว้อาจารย์ ต้องนั่งกับพื้น ต้องหมอบ หรือต้องคลาน ลูกศิษย์ที่นี่จะทราบกันดี เคยมีคนบอกว่าไม่เหมาะสม อาจารย์ก็ระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมา อาจารย์ไลฟ์สดแจ้งลูกศิษย์ว่าหากมาหาอาจารย์ยืนได้ตามปกติ

"อาจารย์เอ จักรพรรดิ"แจงแล้ว ดราม่าหมอบกราบ ทุกคนนั่งพนมมือไหว้ ปูพรมแดง

ทุกคนที่มาถ่ายรูปกับอาจารย์ก็จะทราบดีว่าอาจารย์บอกเสมอว่าให้ยืนได้ แต่ท้ายสุดแล้วมันคือความรักความศรัทธาที่ลูกศิษย์มีต่ออาจารย์ อาจารย์เป็นคนที่มีครูบาอาจารย์เช่นเดียวกัน และเวลาอาจารย์เข้าหาครูบาอาจารย์อาจารย์ก็หมอบก็กราบ เป็นการให้ความเคารพและความรักมันไม่มีเหตุผล และไม่มีกฎกติกาใด และอาจารย์เข้าใจได้ดีว่าในภาพของคนที่มองเข้ามาอาจจะรู้สึกว่า เหตุใดทำไมถึงเป็นภาพแบบนี้ เกิดความคิดต่างๆนานา อาจารย์เข้าใจทุกความคิดเห็นของทุกคน เพราะทุกคนมีความเชื่อ ความคิด มุมมองที่แตกต่างกันออกไป 

 

สำหรับพรมแดง และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปูพรมแดงรอต้อนรับนั้น แท้จริงแล้วเป็นพรมเช็ดเท้า ส่วนพรมสีน้ำเงินนั้นปูไว้สำหรับให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาที่เทวาลัยแห่งนี้ รู้สึกเดินสบายเท้าไม่ร้อนร่มรื่น 

"อาจารย์เอ จักรพรรดิ"แจงแล้ว ดราม่าหมอบกราบ ทุกคนนั่งพนมมือไหว้ ปูพรมแดง

ส่วนจะไปกำชับลูกศิษย์หรือไม่นั้น อาจารย์คงไม่ไปกำชับเพราะมันเป็นการแสดงออกถึงความรัก ถ้าไปห้ามนั้นหมายถึงกฎเกณฑ์ เพราะฉะนั้นเขาอยากแสดงออกความรัก เขาทำได้แต่ให้รู้ไว้ว่าอาจารย์ไม่ได้เรียกร้องให้ทุกคนจะต้องแสดงออกแบบนั้น อาจารย์ก็อยากจะบอกว่า เข้าใจได้กับประเด็นที่เกิดขึ้น อาจารย์ก็เป็นมนุษย์ 1 คน ที่มีความชอบและไม่ชอบ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติ

 

ดังนั้นเคารพในความคิดเห็นของทุกคนว่าอาจจะมีแตกต่างกันไปบ้าง ไม่เป็นไร แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาคอมเม้นที่ทำให้ตนได้กลับมาศึกษาตนเอง เข้าใจตนเองและถามกับตนเองว่าเราจะสามารถดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง

  • จุดเริ่มต้น อาจารย์เอ จักรพรรดิ

จุดเริ่มต้นของการมาเป็นอาจารย์เอ จักรพรรดิ อยู่ในช่วงที่อาจารย์เคยล้มละลายมาก่อน ผิดพลาดทางธุรกิจ ซึ่งอาจารย์ได้ไปบนบานศาลกล่าวกับครูบาอาจารย์ว่าหากสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ และได้ทุกอย่างกลับคืนมา จะดำรงตนในสายนี้ เป็นตัวแทนของเทพไท้เทวาครูบาอาจารย์ในการสื่อสารเรื่องศรัทธาต่างๆเหล่านี้ให้กับผู้คนได้รู้จัก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่อาจารย์ได้ไปที่ศาลล้มละลายกลาง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้อาจารย์ได้ทุกอย่างกลับคืนมา

 

ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นที่รักของคนมากมาย แต่ทันทีที่เรารู้ว่ามีคนรักและศรัทธาในตัวเรามาก เราก็พยายามอยากจะเป็นคนที่ดีมากขึ้น ส่วนการร่ำเรียนศาสตร์วิชาต่างๆจากครูบาอาจารย์นั้น ขออนุญาตไม่เปิดเผย ไม่อยากให้เกิดการเชื่อมโยงใดๆ แต่ไม่ว่าอาจารย์จะร่ำเรียนมาจากไหนก็ตาม ส่วนตัวอาจารย์ทั้งหมดแล้วมันคือความเชื่อ มันคือที่พึ่งทางใจของผู้คน ที่มีความสบายใจได้มากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์