หนุ่มอปพร. ยอมเปิดปากพูด เหตุผลยกพวก รุมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จนสาหัส

หนุ่มอปพร. ยอมเปิดปากพูดแล้ว หลังยกพวก ทำร้ายอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จนสาหัส ลั่นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ อปพร. สายไหม ยกพวกกว่า 30 คน เข้าทำร้ายร่างกายอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูบาดเจ็บ 2 ราย สาหัส 1 ราย ภายในปั๊มแห่งหนึ่งย่านสายไหม ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 00:30 น. ของวันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

 

ก่อนหน้านี้มีรายงานเพียงว่า สาเหตุเกิดจาก ปมความขัดแย้ง ทั้ง 2 ฝ่าย คืออาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร. สายไหม ได้รับแจ้งอุบัติเหตุภายในซอยพหลโยธิน 54/1 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 

 

อ่านข่าวท่เกี่ยวข้อง : สาเหตุเรื่องแค่นี้ เปิดกล้องหน้ารถ อปพร. สายไหม ยกพวกรุมอาสาร่วมกตัญญู

หนุ่มอปพร. ยอมเปิดปากพูด เหตุผลยกพวก รุมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จนสาหัส

ล่าสุดที่สน.บางเขน นายศิริรักษ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือเอ็กซ์ อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาขอมอบตัวกับพ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายฯ โดยมีพนักงานสอบสวนเป็นผู้สอบปากคำ โดยระหว่างทางนายเอ็กซ์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์กรและไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เมื่อปี 2561 เพราะเหตุดังกล่าวได้เคลียร์จบไปแล้ว 

 


สาเหตุที่ตนเองเดินปรี่เข้าไปตบหน้า นายทรงวุฒิ หวังผล หรือบังซา ผู้บาดเจ็บ เพราะมีปมในใจกับบังซา แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นเรื่องอะไรเพราะมีหลายเรื่อง สำหรับเหตุการณ์นี้ตนเองไปสังเกตุการณ์เฉยๆ ไม่ได้ไปในนามอะไรทั้งสิ้น เพราะตนเองไม่ได้เป็นอาสาหรืออะไรอยู่แล้ว และไม่รู้มาก่อนว่าจะได้พบกับบังซา 

 

หนุ่มอปพร. ยอมเปิดปากพูด เหตุผลยกพวก รุมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จนสาหัส

 

ขณะที่ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า ได้เรียกนายเอ็กซ์ ซึ่งเป็นคนที่ลงมือตบหน้านายทรงวุฒิ หรือบังซา ผู้บาดเจ็บ ส่วนผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่เตะตัดขาผู้บาดเจ็บ จนล้มหัวฟาดพื้นเรียกให้มาสอบปากคำเช่นกัน แต่ยังไม่ได้เข้ามาพบ อีกทั้งเรื่องนี้เกิดจากเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับองค์กรหรือทับที่ทับทางกัน เพราะนายเอ็กซ์ ผูกใจเจ็บเพราะคิดว่าบังซา เป็นคนที่ทำให้ตัวเองต้องติดคุกเมื่อนานมาแล้ว 

หนุ่มอปพร. ยอมเปิดปากพูด เหตุผลยกพวก รุมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จนสาหัส


เมื่อได้เข้ามามอบตัว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าตัวเองไม่ได้จะเอาให้ถึงตาย เพราะไม่ได้มีอาวุธอะไร พร้อมปล่อยตัวไปแล้วและเตรียมนัดผู้บริหารทั้งสองฝ่ายมาคุยกันอีกครั้ง เพื่อตกลงกันจะได้ไม่มีปัญหากันอีกในอนาคต ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บกำลังรอผลการตรวจ เพื่อนำมาประกอบสำนวน 

 


เบื้องต้นเตรียมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองคน คือร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนที่มีการแจ้งความเอาไว้ที่สน.สายไหม ว่ามีการยิงปืนข่มขู่ใส่รถของอปพร. สน.สายไหมไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีปลอกกระสุน
 

 

หนุ่มอปพร. ยอมเปิดปากพูด เหตุผลยกพวก รุมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จนสาหัส