- 12 มี.ค. 2568
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เผยข้อมูลในหัวข้อ อายุน้อยก็ตับพังได้ 3 สาเหตุที่คนอายุน้อยตับแข็ง
อายุน้อยก็ตับพังได้ 3 สาเหตุที่คนอายุน้อยตับแข็ง โดย "หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ โรคเบาหวาน ระบุว่า
ใคร ๆ ก็คิดว่า "ตับแข็ง" เป็นโรคของคนแก่ หรือพวกที่ดื่มเหล้าจัดมาหลายสิบปี แต่รู้ไหมว่า วัยรุ่นและวัยทำงานก็เป็นตับแข็งได้ โดยที่บางคนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
เพราะตับมันทำงานหนักทุกวัน ถ้าเราปล่อยให้มันพังไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีสัญญาณเตือน พอรู้ตัวอีกที อาจสายเกินไปแล้ว เพราะเมื่อไหร่ที่ตับแข็ง มันไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้
วันนี้เรามาคุยกันว่าทำไมตับถึงพังได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และเราจะดูแลมันยังไงนะ
1. ไวรัสตับอักเสบ
ไม่ว่าจะเป็นไวรัสตับอักเสบบี (HBV) และซี (HCV) เป็นสาเหตุที่ทำให้ตับอักเสบเรื้อรัง และสุดท้ายก็ทำให้ตับแข็ง
แล้วเราติดเชื้อได้ยังไง?
- จากแม่สู่ลูกตั้งแต่แรกเกิด ถ้าแม่ติดเชื้อ ลูกก็มีโอกาสติดด้วย
- มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- ใช้เข็มฉีดยา หรือเข็มสักร่วมกับคนอื่น
- ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ติดเชื้อ เช่น มีดโกน แปรงสีฟัน
สิ่งที่น่ากลัวคือ หลายคนติดเชื้อไวรัสพวกนี้ แต่ไม่มีอาการ มันก็จะทำลายตับเราไปเรื่อยๆ เป็นสิบปี จนมารู้ตัวตอนที่มีอาการรุนแรง เช่น ตัวเหลือง ท้องโต อ่อนเพลียล
วิธีป้องกัน
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- ตรวจเลือดเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง
- ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกันกับผู้อื่น
2. แอลกอฮอล์
อันนี้หลายคนรู้แหละ ว่าแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุที่ทำให้ ตับแข็ง แต่หลายคนเข้าใจผิดว่า ต้องดื่มหนัก ดื่มทีขวดสองขวดถึงตับจะพัง แต่ความจริงคือ ถ้าดื่มบ่อย ๆ แม้จะเป็นปริมาณน้อย ตับก็เสี่ยงพังได้
แล้วดื่มแค่ไหนถึงเสี่ยง?
- ผู้ชาย ดื่มมากกว่า 40 กรัมต่อวัน (ประมาณเบียร์ 2 กระป๋อง)
- ผู้หญิง เสี่ยงง่ายกว่าผู้ชาย เพราะร่างกายกำจัดแอลกอฮอล์ได้น้อยกว่า
ถ้าเราดื่ม แอลกอฮอล์จะถูกส่งไปที่ตับเพราะมันต้องกำจัดพิษออกจากร่างกาย แต่ถ้าดื่มบ่อย ๆ ตับไม่มีเวลาฟื้นฟูตัวเอง มันก็จะอักเสบสะสมจนเกิดพังผืด และสุดท้ายก็นำไปสู่ ตับแข็งและมะเร็งตับ
วิธีป้องกันคือ
- แนะนำให้เลี่ยงเลยจะดีสุด ถ้าจะดื่ม ให้เว้นช่วง ไม่ดื่มต่อเนื่องทุกวัน
- ลดปริมาณลง ดื่มแค่พอสนุก ไม่ใช่เมาหนัก
- ตรวจสุขภาพตับเป็นระยะ
3. ไขมันพอกตับ
หลายคนชอบคิดว่า ไขมันพอกตับเกิดจากการกินแอลกอฮอล์อย่างเดียว
จริง ๆ ไม่ใช่นะ ถ้าเรากินอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง แต่ร่างกายเผาผลาญไม่หมด ไขมันจะไปสะสมที่ตับ
ทำให้ตับอักเสบ และถ้าเป็นเรื้อรัง ตับจะค่อย ๆ กลายเป็นพังผืดและกลายเป็นตับแข็ง และเสี่ยงมะเร็งตับ
หลายคนคิดว่า ไขมันพอกตับเกิดแค่ในคนอ้วน แต่จริง ๆ แล้ว คนผอมก็เป็นได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินของหวาน ของมัน ๆ แป้งเยอะ ๆ
เพราะฉะนั้น ใครที่ชอบกินของทอด น้ำอัดลม หรือขนมหวาน ไม่ค่อยออกกำลังกาย เป็นเบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง อันนี้มีโอกาสที่จะเป็นสูง
ต้องป้องกันนะครับ
- ลดของทอด น้ำตาล และแป้งขัดสี
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ตรวจสุขภาพเพื่อเช็กค่าตับเป็นระยะ
4. ทำไมเราต้องระวังเรื่องตับแข็ง
ตับที่แข็งแล้วมันไม่สามารถย้อนกลับมาได้นะ สิ่งที่เราทำได้คือรีบป้องกันไว้ก่อน
ใครที่มีอาการแบบนี้อยากให้ระวังเรื่องตับแข็งนะครับ เช่น
- ตัวเหลือง ตาเหลือง เพราะตับไม่สามารถกำจัดสารพิษได้
- ท้องโต ขาบวม เพราะตับสร้างโปรตีนได้น้อยลง ทำให้มีน้ำคั่งในร่างกาย
- อาเจียนเป็นเลือด เพราะเส้นเลือดในหลอดอาหารแตกจากความดันสูง
นอกจากนี้ แล้วถ้าตับแข็งไปเรื่อย ๆ เซลล์ตับบางส่วนอาจกลายพันธุ์และกลายเป็นมะเร็งตับ
ซึ่งความน่ากลัวคือ มะเร็งตับมักไม่แสดงอาการในระยะแรก อาการที่พบในระยะท้ายๆ เช่น น้ำหนักลด เจ็บชายโครงขวา เบื่ออาหาร ตัวเหลือง ท้องโต
เพราะฉะนั้น การตรวจพบเร็ว ยิ่งมีโอกาสเจอเร็ว ก็มีโอกาสรอดนะครับ ควรตรวจเช็ก ทุก 6 เดือนนะ
5. วิธีป้องกันตับแข็ง
หลายคนก็ถามมาเยอะนะครับ ป้องกันตับแข็งและมะเร็งตับได้ยังไง?
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ โดยเฉพาะ HBV
- งดหรือลดแอลกอฮอล์ ดื่มแต่พอดี ไม่ดื่มทุกวัน
- กินอาหารดี ๆ ลดของทอด น้ำตาล และแป้งขัดสี
- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ เพื่อป้องกันไขมันพอกตับ
- ตรวจสุขภาพเป็นระยะ โดยเฉพาะคนที่มีปัจจัยเสี่ยง
อาหารเสริมตัวที่ช่วยเรื่องตับ ก็จะมี
- Choline Bitartrate อันนี้จะช่วยเผาผลาญไขมันในตับและลดการอักเสบ ป้องกันก่อนตับจะแข็ง
- Vitamin E มีงานวิจัยสนับสนุนว่าสามารถลดการอักเสบของตับในผู้ป่วย NAFLD
- Astaxanthin มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของตับ
อ่านจบก็จะเข้าใจเลยนะว่า ตับแข็งไม่ใช่เรื่องของคนแก่หรือคนดื่มหนักเท่านั้น แต่อายุน้อย ๆ ก็เสี่ยงได้ ทั้งจาก ไวรัสตับอักเสบ แอลกอฮอล์ ไขมันพอกตับ และถ้าตับพังไปแล้ว มันไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้
หลายคนอาจจะคิดว่า “ก็ยังไม่มีอาการอะไรนี่ เดี๋ยวค่อยดูแลก็ได้” อยากจะบอกว่าตับแข็งมันเป็นโรคที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า รู้ตัวอีกทีอาจจะเข้าสู่ระยะท้ายแล้ว หรือบางคนรู้ตัวอีกทีก็เป็นมะเร็งแล้ว
เพราะฉะนั้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้เถอะครับ จะได้ไม่เสี่ยง ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยครับ