นักธุรกิจสาว โดนเก็บภาษีย้อนหลัง 600 ล้าน จุดพลาดที่หลายคนไม่รู้

ฐานะผู้สร้างชื่อเสียงในวงการอาหารเสริมเมื่อกว่า 10 ปีก่อน แต่ชีวิตกลับต้องเปลี่ยนไป เมื่อผลิตภัณฑ์ของเธอถูกร้องเรียนว่ามีสารอันตราย จนถูกดำเนินคดีในปี 2557 เนื่องจากเลขจดแจ้ง อย. ไม่ตรงกัน รวมถึงต้องเผชิญคดีหลอกลวงจากอดีต สส. และนักธุรกิจ ที่อ้างว่าจะช่วยเคลียร์คดีให้ แต่สุดท้ายกลับหลอกเงินไปกว่า 9 ล้านบาท ทำให้เธอต้องติดคุกนานกว่า 2 ปี

 

หลังพ้นโทษ ปูนิ่มยังเผยถึงประสบการณ์อีกด้านในฐานะแม่ค้าออนไลน์ยุคแรก โดยเล่าว่า เมื่อเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ในยุคบุกเบิก เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ที่ใช้การยิงโฆษณาผ่าน Facebook Ads แต่กลับไม่รู้ว่า การใช้บัตรเครดิตส่วนตัวผูกกับบัญชีโฆษณานั้น จะไม่นับเป็นรายจ่ายบริษัท ส่งผลให้รายจ่ายดังกล่าวไม่สามารถนำมาหักภาษีในรูปแบบนิติบุคคลได้

 

ผลที่ตามมาคือ กรมสรรพากรตีความว่า รายได้ทั้งหมดต้องถูกจัดเก็บภาษีในฐานะบุคคลธรรมดา แถมยังคิดในฐานภาษีสูงสุด ทำให้ ปูนิ่ม ต้องรับภาระภาษีย้อนหลัง พร้อมดอกเบี้ยและค่าปรับ รวมเป็นเงินสูงถึง 600 ล้านบาท จนทรัพย์สินที่เคยมีทั้งหมดถูกอายัด และถึงตอนนี้ก็ยังไม่เพียงพอชดใช้หนี้ ทำให้เธอต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสิ้นเชิง

 

ทางด้านทนายแก้วที่มาร่วมรายการ ได้เสริมข้อมูลที่น่ารู้ว่า “หนี้สรรพากร” เป็นหนี้ที่ไม่หมดอายุความ และมีลำดับความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาหนี้สินทั้งหมด ไม่ว่าลูกหนี้จะมีหนี้สินกับใคร หนี้ภาษีจะต้องชำระก่อนเสมอ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ทำธุรกิจและแม่ค้าออนไลน์ควรระวัง

เรื่องราวของ ปูนิ่ม จึงไม่เพียงแต่เป็นอุทาหรณ์เรื่องการลงทุนในธุรกิจอาหารเสริมเท่านั้น แต่ยังเตือนใจถึงความสำคัญของการบริหารบัญชีและภาษีอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในยุคที่การทำธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว และภาครัฐเริ่มเข้ามาตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น