สุดสลด "เต้าหู้" ถูกสุนัขรุมดับ เขมรฉกซากไปกิน รีดเงินเจ้าของ 200

เรื่องราวสะเทือนใจคนรักสัตว์โดยเฉพาะเหล่าทาสแมว เมื่อเจ้าของเล่าเหตุการณ์หัวใจสลาย น้องเต้าหู้ ลูกแมววัย 5 เดือน หลุดออกไปจากบ้านและถูกสุนัขรุมกัดจนตาย แต่ยังไม่จบแค่นั้นเพราะร่างของน้องเต้าหู้ยังถูกคนเก็บขยะชาวกัมพูชารายหนึ่งฉกไปกิน เจ้าของตามไปเจอขอซากคืนกลับถูกขู่เรียกเงิน 200 บาท 

 

 

 

เจ้าของโพสต์เรื่องราวสะเทือนใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ

สวัสดีค่ะทุกคน หนูชื่อ....นะคะ มีเรื่องอยากจะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ และขอความช่วยเหลือให้ช่วยกันจับคนที่ทำกับแมวของเราเข้าคุกหน่อยนะคะ

เริ่มเรื่องเลยคือ คืนวันที่ 27 มิ.ย. 68 หนูและเพื่อนนัดกันสังสรรค์ที่บ้านเช่าของหนูที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เราเลิกกินกันประมาณเวลา 00.00–01.00 น. มีเพื่อนนอนค้างที่บ้าน 2 คน หลังจากกินเลี้ยงเสร็จ (ก่อนเข้านอน หนูล็อคบ้านเรียบร้อย และเช็กแมวหมดแล้วว่าอยู่ครบ จึงเข้านอน)

เช้าวันที่ 28 มิ.ย. 68 เวลา 06.30 น. เพื่อนตื่นและกลับบ้านโดยที่ไม่ได้เคาะเรียก แต่ใช้วิธีตะโกนบอกแทน ซึ่งหนูไม่ได้ยินและไม่ตื่น เพื่อนปิดประตูกระจกบานเลื่อนไว้ แต่ไม่ได้ล็อก แมวของหนูชื่อ “ไลอ้อน” ซึ่งเป็นแมวโต แงะประตูออกมาได้ และพาแมวตัวอื่นๆ ในบ้านออกมาหมด

เวลา 07.30 น. หนูตื่นและเปิดหน้าต่างดู เห็นว่าเพื่อนไปแล้ว จึงรีบออกมาดูแมว ปรากฏว่าแมวออกไปหมดแล้ว หนูรีบออกไปตามหา และโทรเรียกเพื่อนมาช่วยหา เจอแค่ 2 ตัว คือ “ไลอ้อน” กับ “อัลมอนด์” ซึ่งเป็นแมวโตทั้งคู่ แต่ “เต้าหู้” แมวอายุ 5 เดือน หายังไงก็ไม่เจอ พยายามช่วยกันหาทั้งวัน

หนูเดินหาน้องทั้งวัน ทำทุกวิถีทาง จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางให้ช่วยพาน้องกลับมา เผื่อน้องหลบอยู่ที่ไหนแล้วกลับบ้านไม่ถูก

วันที่ 29 มิ.ย. หนูกับเพื่อนลองไปถามลุง รปภ. เผื่อเขาเจอน้องตอนขับตรวจ แต่สิ่งที่ได้ฟังทำให้ช็อกมาก ลุงบอกว่าแมวของเราตายตั้งแต่เช้าวันที่ 28 มิ.ย. แล้ว โดนหมาหลายตัวรุมกัด ลุงเห็นจึงเก็บไปวางไว้ที่กำแพงหน้าหมู่บ้าน (แมวของเรามีปลอกคอ พร้อมเบอร์โทรชัดเจน) แต่ลุงไม่ได้โทรแจ้งเราหรือแจ้งนิติฯ ลุงบอกว่าไม่ได้ดูปลอกคอ คิดว่าเผื่อเป็นแมว 9 ชีวิต เดี๋ยวจะฟื้นขึ้นมา

 

ลุงบอกว่ามีคนเขมรที่เก็บขวดมาเห็น แล้วเอาน้องไป หนูก็คิดว่าอาจหวังดี พาน้องไปฝัง จึงไปตามหาลุงเก็บขวดคนนั้น

พอไปถึง เพื่อนหนูก็ถามดีๆ ว่าใช่คนที่เอาร่างเต้าหู้ไปไหม ลุงตอบว่าใช่ แต่โยนเข้าป่าไปแล้ว หนูถามย้ำว่าโยนตรงไหนๆ ซักพักหนูบอกว่าอยากได้ร่างน้องไปทำบุญ ลุงก็พูดวนๆ ซ้ำๆ ว่า "จะเอาไปทำบุญใช่ไหมๆๆ" แล้วเดินเข้าบ้านไป

หนูนึกว่าเขาคงไปขุดศพน้องมาให้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ ลุงออกมาพร้อมใบหน้ายิ้มและพูดว่า "สุกแล้ว" ในมือถือ ตะแกรงพัดลมที่มีเชือกห้อย เหมือนใช้ย่างอาหาร และ เต้าหู้ โดน สับเป็นชิ้นๆ ในตะแกรงนั้น มี ปลอกคอสีส้ม และ ป้ายชื่อ ที่ยืนยันได้ว่าเป็นของน้องแน่นอน หนูช็อก ทำอะไรไม่ถูก ทั้งอึ้ง ทั้งช็อก ทั้งสงสาร ลูกเราตายแล้วยังถูกกินอีก จิตใจคุณทำด้วยอะไร

แมวเรามีเจ้าของ มีปลอกคอ มีเบอร์โทร คุณไม่มีสิทธิ์หยิบลูกเราไปแบบนี้ แล้วลุงยังพูดอีกว่า "ถ้าจะเอาไปทำบุญ เอาไปเลย แต่ขอ 200 บาท" นี่ไม่ใช่มนุษย์แล้วค่ะ ใจร้ายเกินไป เต้าหู้แค่ 5 เดือน ตัวเล็กนิดเดียว ทำลงได้ยังไง กินแมวตัวเล็กๆ ได้ลงคอ เราไม่รู้จะทำยังไงต่อเลย เพื่อนเลยขอแค่ปลอกคอน้องมา แล้วบอกว่า "หนูขอแค่ปลอกคอ ที่เหลือลุงกินไปเถอะค่ะ"

เราไม่มีใครโอเคกับเหตุการณ์นี้ มันโหดร้าย หดหู่ สงสารน้องมาก อยากให้น้องจากไปดีๆ ได้ฝังอย่างสงบ ไม่ใช่ถูกทำแบบนี้

ตอนนี้หนูได้แจ้งความเรื่องการนำแมวที่มีเจ้าของไปกินแล้วค่ะ แต่ตำรวจเหมือนไม่สนใจเท่าไหร่ มองว่าเป็นเรื่องเล็ก (นี่คือความคิดของหนูกับเพื่อนๆ รวมถึงประสบการณ์ที่เคยพบเจอ)

 

 

อีกเรื่อง ลุงคนนี้เป็นคนเขมร เคยทำงานก่อสร้างหมู่บ้าน แต่ลูกหลานไม่รับกลับประเทศ เพราะติดเหล้า ไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีบัตร ไม่มีเอกสารอะไรเลย (เรื่องนี้แจ้งตำรวจแล้ว แต่ตำรวจก็ยังไม่รีบดำเนินการ บอกจะส่งสายตรวจมาดู)

อัปเดตล่าสุด: ตอนนี้ตำรวจบอกว่าจะส่งสายตรวจมาจับนะคะ

ปล. ขอแก้ข่าวเรื่องลุง รปภ. นะคะ มีคนจีนในหมู่บ้านเห็นแมวโดนหมารุมกัด จึงเดินไปแจ้ง รปภ. ที่ป้อม รปภ.พึ่งเข้าเวรและกำลังทำเอกสารอยู่ พอทราบเรื่องก็ไปช่วยน้องออกจากหมา เสี่ยงถูกกัดด้วย แต่ตอนนั้นน้องตัวแข็งไปแล้ว เลยเอาไปวางไว้ที่กำแพงหน้าหมู่บ้าน เพื่อหาทางฝังให้ แต่มาถูกลุงเขมรหยิบไปก่อน ต้องขอโทษลุง รปภ. ด้วยนะคะ ที่หนูเข้าใจผิด หนูผิดเองที่ไม่ดูแลแมวให้ดี และไม่คุยกับเพื่อนให้ชัดเจน ไม่ใช่ความผิดของ รปภ. หมู่บ้านค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ

หนูอยากฝากพี่ๆ น้องๆ ทุกคนช่วยแชร์เรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเลยนะคะ มันสะเทือนใจและหดหู่มากจริงๆ

ขอบคุณมากๆ ค่ะที่สละเวลาอ่านเรื่องของ เต้าหู้ แมวพันธุ์ไทย-เปอร์เซีย อายุ 5 เดือน เพศผู้

อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 68
มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ได้เข้ามาช่วยประสานคดีให้เรียบร้อยแล้วค่ะ