นักธุรกิจสุดช้ำ ถูกแก๊งเงินกู้หลอกกู้เงิน ดอกโหด 720% ต่อปี

วันที่ 2 ก.ค. 68 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บริเวณหน้า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี “ทนายความผู้ผดุงความยุติธรรม” ได้พานายวรเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี นักธุรกิจนวัตกรรมเครื่องผลิตน้ำดื่มบริสุทธิ์จากอากาศ (น้ำด่าง) เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้กู้เงินนอกระบบ คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สูงถึง 720% ต่อปี

 

 

นายวรเดช ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อเดือน พ.ค. ตนเลื่อนฟีด Facebook แล้วพบโพสต์โฆษณาเงินกู้ วงเงินสูงถึง 100 ล้านบาท จึงทักไปพูดคุยและสอบถามรายละเอียด จากนั้นผู้โพสต์ได้ขอให้ตนส่งทะเบียนการค้า บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ จากนั้นจะมีพนักงานติดต่อกลับมา

ต่อมา วันที่ 3 พ.ค. 68 ทางบริษัทเงินกู้ดังกล่าวได้ติดต่อเข้ามา และขอดูธุรกิจของตน โดยใช้กลยุทธ์หลอกให้ตายใจ แต่งกายดี สุภาพเรียบร้อย ดูน่าเชื่อถือ เสมือนเป็นบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ พร้อมทั้งให้ตนค้ำประกันวงเงินไว้อีก 5 ล้านบาท และขอเอกสารทะเบียนการค้า เอกสารบริษัทไปทั้งหมด อ้างว่าจะนำไปประเมินกิจการ เพื่อกำหนดวงเงินกู้

ต่อมาทางบริษัทส่งพนักงานมาพูดโน้มน้าวว่า “วงเงินยังไม่อนุมัติ” ให้เริ่มทำเครดิตก่อน โดยต้องจ่ายรายวัน หากส่งตรงเวลา จะเพิ่มวงเงินให้ โดยเขาเสนอให้กู้ก้อนแรก 100,000 บาท แต่ทำเอกสารสัญญาระบุไว้ 120,000 บาท แล้วหักค่าเพจ 5% ค่าดำเนินการ 5% ดอกเบี้ย 120% ต่อเดือน สุดท้ายผู้เสียหายได้เงินสดจริงเพียง 85,000 บาท

จากนั้นบริษัทจะให้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยรวมวันละ 5,000 บาท โดยส่งพนักงานมาตามทุกวัน ซึ่งตนพบว่าพนักงานเหล่านี้มากถึง 48 คน เป็นเครือข่ายบริษัทเดียวกัน ทำให้เชื่อว่าเป็นขบวนการขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายการเอาเงินตนไปให้คนอื่นกู้ต่อ และสุดท้ายตนไม่ได้รับเงินกู้ตามที่ตกลง แต่กลับต้องเสียเงินออกไปอีก ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ตนจ่ายเงินไปแล้วรวม 230,000 บาท

 

ภายหลังจ่ายไม่ไหว ทางบริษัทเงินกู้ได้ส่งพนักงานประมาณ 15 คน มาล้อมบ้าน และข่มขู่ว่า "จะกระทืบ" ตนจึงแจ้งความที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ เมื่อตำรวจมาตรวจสอบ กลุ่มคนร้ายก็พากันหลบหนี แต่พอตำรวจกลับ กลุ่มดังกล่าวก็วนกลับมาอีก ตนจึงให้ตำรวจที่รู้จักมานอนเฝ้า แต่กลุ่มนั้นก็ยังไม่เกรงกลัว สุดท้ายจึงตัดสินใจมาปรึกษาทนาย และเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม

ด้าน ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า มองว่าขบวนการนี้มีความน่ากลัว ลักษณะทำงานเป็นขบวนการคล้ายมาเฟีย แม้มีการแจ้งความไว้ คดีก็ยังไม่คืบหน้า ทั้งที่มีโพสต์โฆษณาเงินกู้อย่างเปิดเผยใน Facebook ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ความผิดฐานอั้งยี่, ซ่องโจร, สมคบคิดเกิน 5 คนขึ้นไป และเชื่อว่าน่าจะมีเหยื่อรายอื่นที่ยังไม่กล้าออกมา

 

 

“ขบวนการนี้อาศัยช่องโหว่ หลอกลวงคนที่กำลังเดือดร้อน จึงสงสัยว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องหรือไม่ และเหตุใดจึงไม่ดำเนินการกับกลุ่มนี้อย่างจริงจัง เราจะทำคดีนี้ให้ถึงที่สุด หากใครตกเป็นเหยื่อ สามารถเดินทางมาติดต่อได้ เราจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และจะสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้ามีจะดำเนินการอย่างถึงที่สุดโดยไม่มีการละเว้น”

 

 

พร้อมฝากถึงประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อข้อความโฆษณาเงินกู้ลักษณะนี้ เพราะดูจากรูปแบบการโพสต์ก็ไม่น่าเชื่อถือแล้ว ยิ่งไม่มีใครให้กู้ถึง 100 ล้านบาทแน่นอน เป็นเพียงกลลวงเพื่อหลอกให้หลงเชื่อเท่านั้น

เบื้องต้น ผู้เสียหายได้เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเงินกู้นอกระบบตามกฎหมายต่อไป