เป็นเรื่องแล้ว อดีตพระคนสนิท เล่าเบื้องลึกเจ้าอาวาสวัดม่วง

ตามกันต่อกับคดีเงินสด10ล้านบาท พร้อม ทองคำหนัก 250 บาท หายไปจากกุฏิ พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ในซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร โดยก่อนหน้านี้ เจ้าอาวาสวัดม่วง ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้จ้างวานให้ นายธวัชชัย และ นายทิณกร ลูกศิษย์ทั้ง2คน ไปเบิกเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา ศาลายา จำนวน 10 ล้านบาท  โดยนำใส่กระเป๋าเดินทาง และนำกลับมายังอาคารที่สำนักงานเจ้าอาวาสฯ นำมาวางเก็บไว้ในสำนักงานเจ้าอาวาส

ก่อนที่ในเวลาต่อมา เจ้าอาวาส ได้เข้ามาเอาเงินในสำนักงานเจ้าอาวาส เพื่อจะนำไปใช้ในการจับจ่ายใช้สอย ได้พบว่ากระเป๋าเก็บเงินใบดังกล่าวได้สูญหายไป จึงแจ้งให้นายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของวัด ดำเนินการแจ้งความกับ สน.เพชรเกษม 

ซึ่งก็ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมจาก พระนิทัศน์ อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง หลังปรากฏข่าวเจ้าอาวาส ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อคถึง 5 ชั้น จึงแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะสามารถเข้าไปได้

ขณะเดียวกันยังมองว่าตู้เซฟที่มีการเก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปก็ทำได้ยากเช่นกัน 

นอกจากนี้ พระนิทัศน์ ยังอ้างว่า วัดแห่งนี้มีรายได้จากเงินบริจาคจำนวนมหาศาล แต่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะหรือแม้แต่พระภิกษุในวัดเอง ส่วนการสร้างโบสถ์ และสร้างพระประธาน ต้องใช้เงินหลายล้านบาท แต่ก็ไม่มีใครรู้ข้อมูลรายรับรายจ่ายของวัด นอกจากเจ้าอาวาสเพียงคนเดียว จึงอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินภายในวัดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะยอดเงินบริจาค