เปิด 5 จังหวัด ซิฟิลิสพุ่งกว่า 2.9 เท่า พ่อแม่วัยใสรับความเสี่ยง

นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของประเทศไทยที่น่าจับตา โดยในปี 2568 ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 10,931 ราย ซึ่งมีแนวโน้มลดลงจากปี 2560 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่น่ากังวลคือ 1 ใน 5 ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี และถึง 96.4% ของการติดเชื้อรายใหม่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน

สถานการณ์ของ โรคซิฟิลิส กลับพบน่าเป็นห่วงยิ่งกว่า โดยจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 2.9 เท่า จาก 8,737 คนในปี 2562 เป็น 25,469 คน ในปี 2567 โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 15-24 ปี เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า เป็น 9,359 คนในปี 2567

ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ซิฟิลิสแต่กำเนิด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 5.4 เท่า จาก 240 คนในปี 2562 เป็น 1,290 คน ในปี 2567 ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดจากแม่ที่อายุน้อยกว่า 25 ปี ซึ่งเกือบทั้งหมดฝากครรภ์ช้ากว่า 12 สัปดาห์หรือไม่ฝากครรภ์เลย มีแนวโน้มว่าในปี 2568 อัตราผู้ป่วยซิฟิลิสอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก

5 จังหวัดที่มีผู้ป่วยซิฟิลิสสูงสุด 

1. กรุงเทพฯ
2. ชลบุรี
3. นครราชสีมา
4. บุรีรัมย์
5. อุดรธานี

จากการสำรวจพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์และการใช้ถุงยางอนามัย พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์กับ คนรัก/แฟน (95.1%) ตามมาด้วยคนรู้จัก (14.5%), เพื่อน (8.3%), เพศสัมพันธ์แบบ One Night Stand (7.7%) และรู้จักผ่านแอปหาคู่ (6.8%)

สิ่งที่น่ากังวลคือ อายุเฉลี่ยของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอยู่ที่ 15-16 ปี โดยมีอายุน้อยที่สุดเพียง 12 ปี ซึ่งเป็นอายุที่ลดลงและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากบางคนมองว่าการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวไม่จำเป็นต้องสวมถุงยางอนามัย

ในส่วนของพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัย พบว่า 57.2% ของกลุ่มตัวอย่างที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่ใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ใช้ทุกครั้ง ในขณะที่มีเพียง 43% ที่ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง

นพ.วีรวัฒน์ เน้นย้ำว่า ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง กับทุกคน และทุกช่องทาง เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เป็นต้น พร้อมทั้งเร่งให้ความรู้กับวัยรุ่นเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ