- 09 ก.ค. 2568
“เขียง” ไม่ว่าจะเป็นเขียงไม้คลาสสิก หรือเขียงพลาสติกทันสมัย แท้จริงแล้วแบบไหนที่ปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่ากัน?
เขียงไม้ vs. เขียงพลาสติก: ไขปริศนาความปลอดภัย เลือกใช้แบบไหนดีกว่ากัน?
การเลือกเขียงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความสะดวกสบายในการใช้งานแล้ว ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขอนามัยและความปลอดภัยจากเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในอาหาร เขียงไม้และเขียงพลาสติกต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องความสะอาดและการสะสมของแบคทีเรีย
เขียงไม้: มรดกคู่ครัวที่ยังคงมนต์ขลัง
เขียงไม้เป็นที่นิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานและเป็นมิตรกับใบมีด มีหลายคนเชื่อว่าเขียงไม้ปลอดภัยกว่า เพราะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้เองตามธรรมชาติ
ข้อดีของเขียงไม้:
เป็นมิตรต่อใบมีด: เนื้อไม้มีความยืดหยุ่น ช่วยรักษาสภาพคมของมีดได้ดีกว่า
ความสวยงามและสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ: ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับการตกแต่งครัว
อาจมีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรียตามธรรมชาติ: มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า ไม้บางชนิดมีคุณสมบัติในการ "ดึง" แบคทีเรียลงไปในเส้นใย และเมื่อไม้แห้ง แบคทีเรียเหล่านั้นจะตายไปเอง
ข้อเสียของเขียงไม้:
ดูดซับน้ำและกลิ่น: หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจดูดซับน้ำ กลิ่น และคราบอาหาร ทำให้เกิดคราบสกปรกและเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้ง่าย
ทำความสะอาดยากกว่า: ร่องรอยจากการใช้งานอาจกลายเป็นที่ซ่อนของเศษอาหารและเชื้อโรค หากไม่ล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้งสนิท
ต้องดูแลเป็นพิเศษ: ควรล้างด้วยน้ำอุ่นและสบู่ทันทีหลังใช้งาน และเช็ดให้แห้งสนิท รวมถึงการทาน้ำมันสำหรับเขียงไม้เป็นประจำเพื่อป้องกันการแตกและยืดอายุการใช้งาน
เขียงพลาสติก: ตัวเลือกทันสมัยที่เข้าถึงง่าย
เขียงพลาสติกได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยราคาที่ย่อมเยา น้ำหนักเบา และทำความสะอาดง่าย
ข้อดีของเขียงพลาสติก:
ทำความสะอาดง่าย: สามารถล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน และบางชนิดสามารถนำเข้าเครื่องล้างจานได้
ไม่ดูดซับน้ำและกลิ่น: เหมาะสำหรับการหั่นเนื้อสัตว์หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง
มีหลายสี หลายขนาด: สามารถแบ่งแยกการใช้งานตามสี เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้ามชนิดอาหาร (เช่น เขียงสีแดงสำหรับเนื้อดิบ เขียงสีเขียวสำหรับผัก)
ทนทานต่อสารเคมี: สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดได้
ข้อเสียของเขียงพลาสติก:
เป็นรอยง่าย: การหั่นและสับจะทำให้เกิดร่องรอยบนพื้นผิวได้ง่าย ซึ่งร่องรอยเหล่านี้เองที่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะเศษอาหารและแบคทีเรียสามารถเข้าไปสะสมอยู่ในร่องลึกได้
เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค: เมื่อเกิดรอยขีดข่วน แบคทีเรียจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในรอยเหล่านั้น และยากที่จะทำความสะอาดให้หมดจด แม้จะล้างด้วยน้ำยาล้างจานก็ตาม
ไม่เป็นมิตรกับใบมีด: เนื้อพลาสติกที่แข็งกว่า อาจทำให้ใบมีดทื่อเร็วกว่าการใช้เขียงไม้
แล้วแบบไหนปลอดภัยกว่ากัน? คำตอบคือ... การดูแลรักษา!
จากการศึกษาและคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยอาหาร พบว่า ไม่ว่าจะเป็นเขียงไม้หรือเขียงพลาสติก ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและความสะอาดเป็นหลัก
เขียงไม้: หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี คือล้างทันทีหลังใช้งาน เช็ดให้แห้งสนิท และผึ่งในที่อากาศถ่ายเทได้ดี รวมถึงทาน้ำมันเป็นประจำ เขียงไม้ก็สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากมีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรียตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากเขียงไม้มีร่องลึกมาก ๆ หรือเริ่มมีรอยดำจากเชื้อรา ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
เขียงพลาสติก: หากเกิดรอยขีดข่วนลึก ๆ หรือมีรอยจากการใช้งานเป็นจำนวนมาก ควรเปลี่ยนเขียงพลาสติกใหม่ทันที เพราะรอยเหล่านี้คือแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่ยากต่อการกำจัด ควรเลือกเขียงพลาสติกที่แข็งแรง ทนทานต่อการเกิดรอยได้ดี และควรมีเขียงหลายอันสำหรับอาหารแต่ละประเภท
ทั้งเขียงไม้และเขียงพลาสติกต่างก็มีข้อดีข้อเสียในเรื่องความปลอดภัย สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความสะอาดและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี รวมถึงการเปลี่ยนเขียงเมื่อสภาพไม่เหมาะสมกับการใช้งานอีกต่อไป การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ครัวของคุณเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ห่างไกลจากเชื้อโรคได้อย่างแท้จริง.






