ชายพิการใจสลาย ทุ่มรักสาวอุดร สุดท้ายหมดตัว-ไร้ที่อยู่

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 ก.ค. 68 ที่บริเวณด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. นายต้นกล้า (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชายพิการขา 2 ข้าง นั่งวีลแชร์ พร้อมด้วยจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดช้ำใจ หลังถูกหญิงสาวชาวอุดรธานีหลอกให้หลงรักและหลอกให้โอนเงิน รวมแล้วกว่า 227,000 บาท โดยให้ความหวังว่าจะได้สร้างครอบครัวและมีลูกด้วยกัน

 

 

นายต้นกล้าเปิดเผยว่า เมื่อเช้าตนนั่งวีลแชร์มาจากห้องเช่าราคาเดือนละ 2,000 บาท ที่ย่านห้วยขวาง มารถไฟใต้ดิน มาขึ้นที่สถานีห้าแยกลาดพร้าว ก่อนจะขับวีลแชร์มาเรื่อย ๆ รอพบจ่าคิงส์ ตามที่นัดไว้

 

 

ตนได้รู้จักกับนางสาวรุ่งฤดี (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านนาแบก ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อช่วงปลายปี 2564 นางสาวรุ่งฤดีได้หลอกให้ตนหลงรักอย่างมาก โดยสัญญาว่าจะมารับตนไปอยู่กินด้วยกัน และยังบอกอีกว่ามีหลานชายกำพร้าคนหนึ่ง ซึ่งตนก็เต็มใจที่จะรับเป็นพ่อ เพราะอยากมีลูกและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เธอบอกจะขายที่ดิน 15 ไร่ จะได้มาอยู่กินด้วยกันกับตน แต่จะขอเงินค่าทำธุรกรรมต่าง ๆ ตนได้โอนเงินให้เธอตั้งแต่ปี 2564–2567 รวม 71 ครั้ง เป็นเงินกว่า 2 แสนบาท และยังซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทให้ด้วย

นายต้นกล้าเผยว่า ตนเคยบอกนางสาวรุ่งฤดีไปแล้วว่าตนเป็นคนพิการ ซึ่งเธอยอมรับได้ และยังบอกว่าเคยมีสามีและลูก 3 คน โดยสามีได้เสียชีวิตไปแล้ว และได้หย่าขาดกับสามีเก่า ซึ่งตนก็รับได้ทั้งหมด

หลังจากนั้น นางสาวรุ่งฤดีก็อ้างว่าจะขายที่ดิน 15 ไร่ ก่อนจะขอให้ตนโอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่ารังวัดที่ดิน ค่าจ้างทำนา ค่าปุ๋ย และค่าเกี่ยวข้าว ตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงพฤศจิกายน 2567 รวมเป็นเงินประมาณ 227,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมเงินที่ตนฝากคนอื่นโอนให้

 

กระทั่งเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายต้นกล้าก็ไม่สามารถติดต่อนางสาวรุ่งฤดีได้อีกเลย โดยก่อนหน้านั้น ตนเคยบอกนางสาวรุ่งฤดีไปแล้วว่า บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ตนทำงานมานานกว่า 9 ปี กำลังจะยกเลิกสัญญาจ้างงานที่ตนทำฝ่ายบัญชี ทำงานเกี่ยวกับเอกสาร ซึ่งมีผลวันที่ 31 ตุลาคม 2567

"จนถึงตอนนี้ตกงานมาแล้วหลายเดือน ห้องเช่าที่พักอยู่ก็จะหมดสัญญาเดือนนี้แล้ว ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนหลังจากนี้ เงินเก็บก็หมดเพราะเอาไปโอนให้รุ่งฤดีจนหมด"

 

 

นายต้นกล้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่ถูกหลอก และอยากจะเตือนให้ทุกคนระมัดระวังมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของการสร้างความรักและความหวัง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเช่นตน

เบื้องต้นผู้เสียหายเข้าพบ พงส. บก.ปอท. ได้พิจารณาหลักฐานต่าง ๆ ที่นายต้นกล้ารวบรวมมาก่อน แนะนำให้ไปพบ พงส. สน.สุทธิสาร ท้องที่เกิดเหตุที่มีการโอนเงิน ซึ่งมีอำนาจรับผิดชอบในการดำเนินคดีต่อไป