เตือนพระ อย่าตบะแตก พระพยอม ชี้ สีกากอล์ฟ สะท้อนความตกต่ำวงการสงฆ์

จากประเด็นร้อนวงการผ้าเหลืองเกี่ยวกับ สีกากอล์ฟ ล่าสุดทีมข่าว ไทยนิวส์ ได้มีโอกาสเข้ากราบ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พร้อมกับสัมภาษณ์ถึงกรณี “สีกากอล์ฟ” ว่า เป็นเรื่องสะเทือนใจและเป็นภาพสะท้อนความตกต่ำของนักบวชบางกลุ่มที่ละเลยพระธรรมวินัย และปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงต่อการล่มสลายของพรหมจรรย์

พระพยอมกล่าวว่า กรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีพระบางรูปที่ไม่สามารถแยกแยะหรือไหวตัวทัน จนตกเป็นเหยื่อของการล่อลวง ซึ่งมีบางรายถึงกับ “ต้องเอาไฟฉายฟาดหัวตัวเอง” เมื่อรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่พระไม่ยึดธรรมวินัย หากยึดมั่นในศีล จะไม่มีใครสามารถล่อลวงได้ ต่อให้มีใครทอดสะพานมาให้เดิน ก็แค่ ‘ชักสะพาน’ ออก มันก็จบ” พระพยอมกล่าว

พระพยอมยังตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมที่ดูผิดปกติว่า “กรณีที่พระไปอยู่บ้านสีกาเป็นเดือน แต่ชาวบ้านกลับไม่มีใครระแคะระคายถือว่าแปลกมาก และวัดที่เจ้าอาวาสหายตัวไป พระเณรทั้งหมดหายไปไหน ไม่มีใครติดตามหรือสงสัยเลยหรือ?”

พระพยอมยังเล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าเคยเผชิญเหตุการณ์คล้ายกันถึง 2 ครั้ง ขณะจำวัดอยู่ในกุฏิกลางน้ำ เวลาประมาณตี 1 มีหญิงคนหนึ่งมาเคาะประตู อ้างว่าหนาวและขอผ้าห่ม โดยพยายามจะเข้ามาภายในกุฏิ แต่ท่านได้ปฏิเสธ พร้อมขู่ว่าหากยังพยายามเข้ามาอีก จะถีบให้ตกบันได

“จำเป็นต้องปกป้องพรหมจรรย์ของตัวเองไว้ก่อน” ท่านกล่าว พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับเงินทอง เพราะในเวลานั้นท่านยังไม่มีเงินหรือชื่อเสียง คาดว่าเป็นความต้องการส่วนตัวของฝ่ายหญิง

สำหรับกรณีของ “สีกากอล์ฟ” ล่าสุดถูกจับกุมเรียบร้อยและต้องเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย ซึ่งพระพยอมแสดงความห่วงใยไปถึงลูก ๆ ของหญิงคนดังกล่าวว่า อาจต้องเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนหลังจากนี้

 

ท่านยังฝากข้อคิดถึงพระสงฆ์ทั่วประเทศว่า ควรรักษาตนให้ดี อย่าปล่อยให้ตบะแตก อย่าให้พรหมจรรย์ล่มสลาย เพราะคนที่เคยกราบไหว้เราก็ควรจะได้กราบไหว้เราต่อไป ขอให้พระทุกรูปเป็นเนื้อนาบุญของชาวพุทธอย่างแท้จริง

 

พร้อมกันนี้ ท่านได้กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์พระสงฆ์ในโลกออนไลน์ว่า ไม่ควรใช้อารมณ์ในการตัดสินภาพรวมของพระสงฆ์ไทย เพราะพระที่มีปัญหาในขณะนี้ หากเปรียบกับจำนวนพระทั้งหมดทั่วประเทศที่มีกว่า 200,000 รูป ก็ถือว่ายังน้อยมาก

“บางคนพูดว่า ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่อยากทำบุญ ไม่อยากมีศาสนาแล้ว การพูดแบบนี้ก็เหมือนกับถ้าตำรวจหรือทหารไม่ดีไม่กี่คน แล้วจะเลิกมีทั้งองค์กร มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา”

พระพยอมทิ้งท้ายว่า ตลอด 70 ปีในเพศบรรพชิต เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดในชีวิต และนับเป็นวิกฤตศรัทธาครั้งรุนแรงของวงการสงฆ์ไทย