- 30 ก.ค. 2568
ข้าราชการบำนาญร้องทุกข์ ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกลงทุนหุ้น สูญกว่า 3.7 ล้านบาท "อี้ แทนคุณ" พาผู้เสียหายร้องกองปราบฯ
เวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ค. 68 ที่ บช.ก. นายอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ได้พานายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญ ซึ่งเป็นผู้เสียหายรายหนึ่ง เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. หลังตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินไปกว่า 3,700,000 บาท
นายสมชาย ผู้เสียหายเปิดเผยถึงพฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพว่า ได้อ้างตัวเป็นอาจารย์ “พ” หมื่นล้าน สอนเทรดหุ้น และมีเลขาเทรดหุ้นฝีมือระดับประเทศเข้ามาสร้างความน่าเชื่อถือ โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึง 15-35% จากการเทรดแบบ "BIC LOT" ในช่วงแรกผู้เสียหายสนใจอยากลงทุน จึงเข้าไปค้นหาในกูเกิล ก่อนไปเจอเพจในเฟซบุ๊ก แนะนำให้เข้าไปเรียนวิธีการเทรดหุ้น สอนอยู่ 1 เดือน รับประกันว่าเรียนจบจะได้กำไรงาม ก่อนจะพาเข้ากลุ่มไลน์ที่มีคนสนใจเรียนจำนวนกว่า 800 คน เมื่อเรียนต้นเดือน ก.ค. แล้วได้ทดลองเทรดในนามของอาจารย์คนดังกล่าว ตามคำแนะนำทุกอย่าง
ครั้งแรก 1 แสนบาท ได้กำไรมา 1 หมื่นกว่าบาท ลองถอนเงิน 1 หมื่นก็สามารถเบิกเงินได้จริง
ครั้งที่สองลองเทรดตามที่อาจารย์แนะนำ 2 แสนบาท ก็ได้กำไรมาอีก 2 หมื่นบาท ลองถอนเงิน 2 หมื่นบาทก็สามารถถอนเงินออกมาได้จริง จึงเชื่อว่าอาจารย์คนนี้น่าจะเป็นของจริง ทั้งที่ตลอดชีวิตไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อนเลย ทำให้หลงเชื่อและลงทุนเพิ่มขึ้น
โดยแก๊งมิจฉาชีพได้เชื่อมโยงตนไปยังแอปพลิเคชันที่เลียนแบบบริษัทเทรดหุ้นชื่อดัง และสร้างบัญชีหน้าม้าภายในแอปฯ ทำทีเป็นว่าสามารถทำกำไรได้หลายล้านบาท ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้ตนจนทุ่มเงินลงทุนมากขึ้น ท้ายที่สุดตนกลับต้องสูญเงินเก็บออมทั้งหมดไปจำนวนกว่า 3,700,000 บาท
ผู้เสียหายเปิดเผยว่า สังเกตเห็นความผิดปกติในการฝากและถอนเงิน โดยเงินไม่ได้โอนเข้าบัญชีของบริษัทเทรดหุ้นชื่อดัง แต่เป็นชื่อบัญชีบริษัทที่ตั้งเลียนแบบ หรือแม้กระทั่งชื่อบุคคลธรรมดา ซึ่งคาดว่าจะเป็นบัญชีม้า เมื่อตรวจสอบข้อมูลพบว่าบริษัทดังกล่าวเพิ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 และเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่แอปพลิเคชันสำหรับการเทรดหุ้นแต่อย่างใด
ด้านนายอี้ แทนคุณ ฝากสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงสะท้อนความทุกข์ร้อนของประชาชน และเตือนภัยสังคมให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่ปรับเปลี่ยนพฤติการณ์ในการหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานที่ผู้เสียหายได้ยื่นร้อง พร้อมทั้งอายัดบัญชีธนาคารของมิจฉาชีพตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป






