"ศาล รธน."ชี้ชะตา"แพทองธาร" 29 ส.ค.นี้ คดีคลิปเสียงฮุนเซน

ชี้ชะตาการเมืองไทย! ศาลรัฐธรรมนูญ นัดแล้ว กำหนดอ่านคำวินิจฉัย คดีคลิปเสียง แพทองธาร ชินวิตร กับ ฮุนเซน วันที่ 29 สิงหาคม 2568 นี้

13 ส.ค.68 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดชี้ชะตา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ปมคลิปเสียงสนทนา"ฮุนเซน" ในวันที่ 29 ส.ค.68 นี้ โดยเป็นวาระพิจารณาหรือมีคำสั่งในคำร้องของประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว

สมาชิกวุฒิสภา รวม 36 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) ว่า ปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้อง) กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ซึ่งผู้ถูกร้องแถลงข่าวยอมรับว่าเป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จ ฮุน เซน จริง

"ศาล รธน."ชี้ชะตา"แพทองธาร" 29 ส.ค.นี้ คดีคลิปเสียงฮุนเซน

แม้ผู้ถูกร้องจะแถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัวโดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า ผู้ถูกร้องแสดงออกถึงความนิ่งเอยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการรวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บคคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตแห่งความสัมพัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด 

"ศาล รธน."ชี้ชะตา"แพทองธาร" 29 ส.ค.นี้ คดีคลิปเสียงฮุนเซน

"ศาล รธน."ชี้ชะตา"แพทองธาร" 29 ส.ค.นี้ คดีคลิปเสียงฮุนเซน
ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2ผู้ถูกร้องเห็นว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ผู้ถูกร้องไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจชัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสามประกอบมาตรา ๔๒๒ ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๔) ประกอบมาตรา ๑๖๐ (๔) และ (๕) และขอให้ศาลรัฐธรรมนุญสั่งให้ผู้ถกร้องหยดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

 

ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา กำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก คือ ผู้ถูกร้องและและเลขาธิการสภาความมันคงแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีที่21 สิงหาคม 2568เวลา 10.30 นาฬิกา พยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกหากไม่มาตามกำหนดนัดถือว่าไม่ติดใจเป็นพยานบุคคล และให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นเป็นหนังสือต่อต่อศาลภายในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจยื่น โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ

และลงมติ ในวันศุกร์ 29  สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 นาฬิกา นัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00 นาฬิกา เป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศาลรัฐธรรมนูญจะอนุญาตให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนและฟังคำวินิจฉัยเป็นรายบุคคล