เตรียมตัวให้พร้อม เช็ก "ข้อควรรู้" ก่อนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ "รถไฟฟ้า 20 บาท"

รวมทุกข้อควรรู้ ลงทะเบียน "รถไฟฟ้า 20 บาท" ผ่านแอปฯ ทางรัฐ โดยไม่จำกัดจำนวนสิทธิและไม่จำกัดจำนวนคน สามารถลงทะเบียนไปจนถึงเมื่อไหร่ก็ได้ โดยจะเริ่มใช้สิทธิเดินทาง 1 ต.ค. 68

กระทรวงคมนาคม เปิดลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่ม 25 ส.ค. 68 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป ผ่านแอปฯ ทางรัฐ โดยไม่จำกัดจำนวนสิทธิและไม่จำกัดจำนวนคน สามารถลงทะเบียนไปจนถึงเมื่อไหร่ก็ได้ โดยจะเริ่มใช้สิทธิเดินทาง 1 ต.ค. 68

เตรียมตัวให้พร้อม เช็ก ข้อควรรู้ ก่อนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ รถไฟฟ้า 20 บาท

1. รถไฟฟ้า 20 บาท ไม่ว่าจะขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีไหนจะจ่ายเพียง 20 บาทตลอดสาย (ต้องอยู่ในระยะเวลา 180 นาที)

2. ผู้มีสิทธิลงทะเบียนต้องมีสัญชาติไทย

3. ใช้บัตรประชาชน + บัตรเดินทางในการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ

4. ไม่ลงทะเบียนบัตรไว้ต้อง “จ่ายเต็มราคา”

5. รถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ 1) สายสีแดง 2) สายสีน้ำเงิน 3) สายสีม่วง 4) สายสีชมพู 5) สายสีเหลือง 6) สายสีเขียว 7) สายสีทอง และในอนาคตอาจมี แอร์พอร์ตลิงก์ เข้าร่วมด้วย

6. หากเดินทางจาก MRT และไปต่อ BTS ต้องมีบัตร 2 ใบ

7. เริ่มลงทะเบียนวันที่ 25 สิงหาคม 68

8. เริ่มใช้จริงวันที่ 1 ตุลาคม 68 - 30 กันยายน 69

 

เตรียมตัวให้พร้อม เช็ก ข้อควรรู้ ก่อนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ รถไฟฟ้า 20 บาท

บัตร Rabbit Card - บัตร EMV แต่ละใบใช้กับรถไฟฟ้าสายไหนได้บ้าง?


อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ “บัตร” ที่จะนำไปใช้กับรถไฟฟ้า 20 บาท ซึ่งเราจะใช้สิทธิได้ก็ต่อเมื่อบัตรเป็นใบเดียวกับที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทผ่านแอปฯ ทางรัฐ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ใบ ได้แก่

 

  • บัตร EMV / บัตรเครดิต / บัตรเดบิต

ใช้ได้กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, สายสีม่วง, สายสีเหลือง, สายสีชมพู, สายสีแดง

รวมไปถึงแอร์พอร์ตลิงก์ที่จะเข้าร่วมในอนาคต

 

  • บัตร Rabbit Card แบบ ABT (แบบเติมเงิน)

ใช้ได้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว/เขียวเข้ม, สายสีทอง, สายสีเหลือง, สายสีชมพู

ทั้งนี้ บัตรรถไฟฟ้าบางประเภท เช่น บัตรเติมเงิน MRT, MRT Plus จะใช้กับโครงการ 20 บาทไม่ได้

 

ที่มา : ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม