- 04 ก.ย. 2568
อันตรายกว่าที่คิด! "หมอเจด" ยกเคส "อาเล็ก ธีรเดช" ป่วยอาหารเป็นพิษ อาหารแบบไหนซ่อน "ซัลโมเนลลา" (Salmonella)
จากกรณีที่พระเอกหนุ่มตี๋อารมณ์ดี อาเล็ก ธีรเดช ต้องนอนโรงพยาบาลครั้งแรกในชีวิต หลังเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ถ่ายเป็นน้ำนับสิบรอบจนเดินไม่ไหว ตาพร่า มองอะไรไม่ชัด โฟกัสไม่ได้ โดยหมอเผยสาเหตุว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "ซัลโมเนลลา" (Salmonella)
ล่าสุดทางด้าน นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอเจด เตือนภัยสุขภาพ ยกเคสของ อาเล็ก ธีรเดช โดยระบุข้อความว่า
"อาเล็ก แอดมิทด่วน อาหารเป็นพิษ ไม่อยากนอน รพ. ป้องกันตามนี้!
เพื่อน ๆ คงเห็นข่าวแล้วใช่ไหมครับว่า "อาเล็ก ธีรเดช" พระเอกหนุ่มหล่อสุขภาพดี ยังต้องนอนโรงพยาบาลเพราะอาหารเป็นพิษ ตรวจแล้วเจอเชื้อ ซัลโมเนลลา (Salmonella)
ฟังแล้วอาจขำ ๆ ว่า "ท้องเสีย" ธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วเชื้อนี้ทำเอาคนล้มทั้งยืนได้เลยนะครับ โดยเฉพาะเด็ก คนสูงอายุ หรือใครที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
วันนี้ผมเลยอยากมาเล่าให้ฟัง ว่า เชื้อตัวนี้มันคืออะไร อยู่ในอาหารอะไรบ้าง อาการมันเป็นยังไง และเราจะป้องกันยังไงให้ไม่ต้องเจ็บตัวแบบอาเล็กครับ
1. เชื้อซัลโมเนลลาคือใคร มาจากไหน?
ลองนึกภาพง่าย ๆ เลยครับ ซัลโมเนลลาเป็นแบคทีเรียที่ชอบอยู่ในลำไส้ของสัตว์ เวลามันเผลอปนมากับอาหารหรือเครื่องดื่มที่เรากินเข้าไป มันก็เข้าไปทำให้ลำไส้อักเสบ
พออักเสบปุ๊บ สิ่งที่ตามมาก็คือ
- ท้องเสียเป็นน้ำ แบบนั่งปุ๊บไหลปั๊บ
- ปวดท้องบิด ๆ เกร็ง ๆ เหมือนมีอะไรบีบข้างใน
- ไข้ ปวดเมื่อยทั้งตัว จนบางคนคิดว่าเป็นไข้หวัด
- กลิ่นก็จะออกแนวแรง ๆ จนรู้เลยว่าไม่ใช่ท้องเสียธรรมดา
อาการจะเริ่มขึ้นภายใน 6–72 ชั่วโมง หลังจากกินอาหารปนเปื้อน นี่แหละครับที่ทำไมบางคนไปกินชาบูตอนเย็น แต่ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำตั้งแต่ตี 4 ถ้าใครแข็งแรงดีก็อาจจะหายเองใน 3–4 วัน แต่ถ้าเป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี (เช่น เบาหวาน คนที่รับยาเคมีบำบัด) อาจถึงขั้นรุนแรงจนติดเชื้อในกระแสเลือดได้เลยครับ
2. ของกินใกล้ตัว ที่แอบซ่อนซัลโมเนลลา
จริงๆเราสามารถป้องกันมันได้นะ คือถ้าเราปรุงอาหารให้สุกจริง ๆ เชื้อนี้ตายแน่นอนครับ แต่ปัญหาคือของอร่อยหลายอย่างที่เราชอบกิน มันดันชอบแบบ "ไม่สุกดี" หรือเก็บแบบไม่ถูกวิธี
2.1 เนื้อสัตว์ไม่สุก
- ไก่ = ตัวดีเลย เจอบ่อยสุด
- หมู = นอกจากซัลโมเนลลา ยังเสี่ยง "ไข้หูดับ" อีก
2.2 ไข่ดิบ ไข่ไม่สุก
- อย่างไข่ลวก ข้าวไข่ดิบ ไข่ดิบจิ้มข้าวสุก บางคนเอาไข่ดิบไปกินเป็นน้ำจิ้มก็มี
- ขนมหวานที่ใช้ไข่ดิบ เช่น คัสตาร์ด ครีมสด ไอศกรีมโฮมเมด
- แม้แต่ตัวเปลือกไข่เองก็มีโอกาสปนเปื้อนได้
แต่จริง ๆ แล้ว ปัจจุบันก็มี ไข่ไก่เกรดพิเศษที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ (Pasteurized Egg) วางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตนะครับ
- ไข่พวกนี้จะถูกทำความร้อนในระดับที่ ฆ่าเชื้อซัลโมเนลลาได้ แต่ยังคงสภาพดิบอยู่
- คนญี่ปุ่นเองก็ใช้ไข่พาสเจอร์ไรส์นี่แหละสำหรับทำเมนู ข้าวหน้าไข่ดิบ (Tamago Kake Gohan) หรือเมนูที่ใช้ไข่ไม่สุก
แปลว่า ถ้าอยากกินไข่ดิบจริง ๆ ก็พอมีทางเลือกที่ "ปลอดภัยกว่า" อยู่ แต่ต้องเลือกที่มีมาตรฐานและผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์จริง ๆ ไม่ใช่หยิบไข่ธรรมดามาทานดิบ ๆ เองนะครับ
2.3 เบเกอรี่ที่ใช้ไข่ดิบ
- เค้กสูตรโฮมเมดที่ไม่ได้อบร้อนพอ ก็เสี่ยงเหมือนกัน
2.4 อาหารค้างคืน โดยเฉพาะหน้าฝน
- ช่วงอากาศร้อน ๆ ชื้น ๆ เชื้อโตเร็วมาก
- ถ้าเก็บไม่สะอาด หรือแช่ตู้เย็นไม่ทันเวลา เชื้องอกงามเต็มที่เลยครับ
3. อาการที่ทำให้สงสัยว่า "ติดเชื้อแล้วรึเปล่า"
บางคนเวลาเจ็บท้อง ท้องเสีย ก็มักจะโทษว่า "กินเผ็ดไป" หรือ "อาหารไม่ย่อย" แต่ถ้าเป็นซัลโมเนลลามันจะชัดเจนกว่านั้นครับ
- ถ่ายเหลวแบบน้ำวันละหลายครั้ง
- กลิ่นแรงจนผิดปกติ
- ปวดท้องบิดแรง ๆ + มีไข้
- มักจะเกิดเร็วหลังจากกินอาหาร (ภายใน 1 วัน)
ถ้ามี อาการหนัก เช่น ถ่ายจนเพลีย ปัสสาวะน้อย เลือดปนในอุจจาระ ไข้สูง แบบนี้อย่านิ่งนอนใจ ต้องไปหาหมอเลยครับ
4. ทำไมบางคนแค่ท้องเสีย แต่บางคนต้องนอนโรงพยาบาล?
ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับ 2 อย่างครับ
1. ปริมาณเชื้อที่กินเข้าไป
- กินนิดหน่อย → อาจแค่ถ่ายเบา ๆ
- กินเยอะ → ล้มทั้งยืน
2. ภูมิคุ้มกันร่างกายเราเอง
- คนสุขภาพดี → ร่างกายจัดการได้ หายภายในไม่กี่วัน
- เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่ร่างกายอ่อนแอ → เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน ต้องให้น้ำเกลือ หรือบางทีต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
เคสของอเล็กซ์ก็เป็นตัวอย่างชัด ๆ ครับ แข็งแรง หล่อ หุ่นดีแค่ไหนก็ไม่รอด เพราะถ้าเชื้อเข้าไปเยอะ อาการมันก็หนักจนต้องแอดมิทเหมือนกัน
5. วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ "ขี้แตก"
5.1 ปรุงให้สุกเสมอ
- โดยเฉพาะไก่ หมู ไข่ → ต้องให้สุกจริง ๆ ไม่ใช่สุกครึ่ง ๆ กลาง ๆ
5.2 เลี่ยงอาหารดิบ ๆ สุก ๆ ดิบ ๆ
- อย่างชาบู ปิ้งย่าง ต้องแน่ใจว่าสุกจริง
- ไข่ดิบ ไข่ลวก ถ้าไม่มั่นใจคุณภาพ อย่าเสี่ยงเลยดีกว่า
5.3 เก็บอาหารให้ถูกวิธี
- อาหารที่ทำแล้ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นอกตู้เย็นเกิน 2 ชั่วโมง เราไม่รู้นะว่าวางทิ้งไว้จะเจอแมลง หรือชื้ออะไรนะ
5.4 ล้างมือ ล้างอุปกรณ์ให้สะอาด
- เขียง มีด จานชาม ต้องล้างดี ๆ
- อย่าใช้เขียงเดียวกันสำหรับของสดกับของสุก
5.5 น้ำต้องสะอาด
- เพราะน้ำปนเปื้อนก็นำเชื้อมาสู่เราได้
เชื้อซัลโมเนลลาไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ของกินที่เราเจอกันทุกวัน ทั้งไก่ หมู ไข่ หรือแม้แต่เค้กก็อาจมีเชื้อแอบอยู่ได้ เห็นไหมครับ ขนาดน้องอาเล็ก ธีรเดชที่ดูแข็งแรงยังต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะมัน แล้วคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ถ้าพลาดไปกินอะไรเสี่ยง ๆ ก็อาจเจ็บตัวได้เหมือนกัน แค่ปรุงให้สุก ล้างให้สะอาด เก็บให้ถูกวิธี ก็ช่วยลดโอกาส "ขี้แตก" ได้เยอะแล้ว






