- 16 ก.ย. 2568
รู้แล้ว ทำไมประชาชนคนบริสุทธิ์โดนอายัดบัญชี ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิด - ไม่ใช่บัญชีม้า หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากกรณีที่ประชาชนหลายคนโดนอายัดบัญชีโดยที่ไม่ได้มีความผิด ซึ่งก่อนหน้านี้ร้านค้าจำนวนมากต่างหวาดกลัวกับการกระทำดังกล่าว จนทำให้ไม่กล้าให้ลูกค้าโอนเงินให้ผ่านบัญชี เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดจนโดนอายัด อาทิ เจ้าของร้านเสริมสวย แห่งหนึ่ง เล่าว่า มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการสักคิ้วและสแกนจ่ายค่าบริการ 1,200 บาท ต่อมาก็พบว่าบัญชีของตนถูกอายัด จึงไปติดต่อธนาคาร กระทั่งพบหน้ากับผู้แจ้งความ คือ ลูกค้าที่ร้าน ซึ่งอีกฝ่ายให้เหตุผลว่าแจ้ง "อายัดผิด" เพราะถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.เอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) โฟนอินเข้ามาในรายการโหนกระแส พร้อมชี้แจงว่า มาตรการเหล่านี้ เราไม่ได้เพิ่งทำ แต่เราทำกันต่อเนื่องมานานแล้วกว่า 2 ปี เพื่อติดตามเส้นเงิน ติดตามเงินในบัญชีต้องสงสัย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการถูกมิจฉาชีพหลอก แต่ด้วยความที่เราติดตามเส้นเงินลงไปลึกๆ ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะไปโดนบัญชีผู้บริสุทธิ์บ้าง
แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าของบัญชีที่บริสุทธิ์ สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้หมด ก็จะสามารถปลดอายัดได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตอนนี้การเอาจริงเอาจังในการติดตามเส้นเงินของมิจฉาชีพเพื่อป้องกันความเสียหายจากมิจฉาชีพ อาจจะมีบ้างที่มีประชาชนได้รับผลกระทบ อาจจะต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ว่ามาตรการเหล่านี้เป็นไปเพื่อการป้องกันความเสียหายจริง ๆ เพราะตั้งแต่ทาง AOC ร่วมกันทำงานมาตลอด 2 ปี เราสามารถอายัดเงินต้องสงสัยได้กว่า 4 หมื่นล้านแล้ว
ถามว่าทำไมบางคนถูกอายัด "ทุกบัญชี" ไม่ใช่แค่บัญชีที่รับโอนจากบัญชีม้า ก็ต้องบอกว่า การถูกอายัดบัญชี แปลว่าต้องมีหมายจากตำรวจมาแล้วถึงจะได้ดำเนินการอายัด เพราะในส่วนของ AOC เรามีหน้าที่แค่ส่งให้ธนาคารอายัดการทำธุรกรรม อายัดบัญชีต้องสงสัยไว้ได้แค่ 7 วัน หลังจากนั้นจะต้องใช้อำนาจ ป.วิ.อาญา ในการดำเนินการ ซึ่งทางเราไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนี้ เป็นตำรวจที่จะทำได้ ต้องไปถามทางตำรวจ
สุดท้ายในรายการ ทนายพัฒน์ อนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ได้สรุปหลังจากได้ฟังผู้ตรวจการตอบคำถาม จนต้องยอมรับว่า ที่เรามานั่งคุยกัน ยังไม่มีคำตอบอะไรให้พี่น้องประชาชนได้เลย ไม่ว่าจะเรื่องการเยียวยา สุดท้ายเขาพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ใช่มิจฉาชีพ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องเลย แล้วการที่เขาไปเสียเงิน เสียเวลา เสียโอกาสในชีวิต รัฐ , ธนาคาร หรือใครจะรับผิดชอบให้เขา
แล้วอีกประเด็นคือ ตอนนี้ผู้เสียหายมานั่งทะเลาะกับหน่วยงานรัฐ แต่มิจฉาชีพตัวจริงอาจจะนั่งหัวเราะอยู่ก็ได้ ว่าในขณะที่คุณทะเลาะกันอยู่ แต่ฉันยังโปรโมตเว็บพนันฉ่ำ ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมีมิจฉาชีพออกโปรโมชันรับจ้างปลดอายัดบัญชี หลอกซ้ำกันเข้าไปอีก นี่คือสิ่งที่น่ากลัวมาก






