- 17 ก.ย. 2568
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวใหญ่รู้ตัวขาดคุณสมบัติแต่แอบลงสมัครสมาชิก อบต. และพบประวัติจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร่วมกันจับกุม น.ส.ชลธิชาฯ อายุ 44 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.476/68 ลงวันที่ 10 กันยายน 2568 ในฐานความผิด "ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน”
สถานที่จับกุม บริเวณถนนเทพารักษ์ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ภายในจังหวัดสุรินทร์ โดยรู้ว่าตนมีคุณสมบัติต้องห้าม และแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน พบว่า น.ส.ชลธิชาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.476/68 ลงวันที่ 10 กันยายน 2568 ในฐานความผิด "ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน” มีการปรากฎตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ลงพื้นที่หาเบาะแส จนพบ น.ส.ชลธิชาฯ เดินอยู่บริเวณถนนเทพารักษ์ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม น.ส.ชลธิชาฯ ซึ่งจาการสอบสวนเบี้องต้นพบ น.ส.ชลธิชาฯ ให้การว่าลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก อบต. ตามการชักชวนของพี่ชาย โดยที่รู้ว่าตนเองขาดคุณสมบัติ เพราะไม่ได้ไปลงเลือกตั้งสมาชิกจังหวัดที่ผ่านมา แต่ก็ยังฝ่าฝืนลงสมัครสมาชิก อบต. โดยแจ้งขอความอันเป็นเท็จแก่ กกต. ต่อมาเมื่อ กกต. ดำเนินการตรวจสอบจึงพบว่า น.ส.ชลธิชาฯ ขาดคุณสมบัติ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีแก่ น.ส.ชลธิชาฯ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง น.ส.ชลธิชาฯ ไม่ได้มาติดต่อให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีและออกหมายจับ จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่สุด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมพบข้อมูลของน.ส.ชลธิชา กระแจะจันทร์ เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีเกี่ยวการนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักลอบนำเข้าหรือส่งออกสินค้า จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการโดยหลังจากจับกุม ได้ดำเนินการนำผู้ต้องหาส่ง สภ.โชคนาสาม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อหา
เตือนภัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ต้องตรวจสอบคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามให้ครบถ้วน การขาดคุณสมบัติหรือการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จแก่เจ้าหน้าที่รับสมัครนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดถึง 20 ปี จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามให้ครบถ้วน ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้






