เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 2568 เริ่มโอนแล้ว ใครมีสิทธิรับ 8 เดือนเต็ม เช็กเลย

“เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 2568” กรมบัญชีกลาง มีกำหนดจ่ายเงินช่วยเหลือ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รับสิทธิโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ 8 เดือนรวด 

นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุได้อนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

 

• ได้รับเงิน 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 8 เดือน รวมเป็นเงินสูงสุด 800 บาทต่อคน
• กำหนดจ่ายเงินในเดือนกันยายน 2568 โดยจะแบ่งการโอนเงินออกเป็น 3 รอบ ตามวันเดือนปีเกิดของผู้มีสิทธิ
• การโอนเงินจะเข้าบัญชีโดยตรง ทั้งระบบพร้อมเพย์ และบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ผู้มีสิทธิได้แจ้งความประสงค์ไว้

 

เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 800 บาทนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568 โดยผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินจะต้องเป็นผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยจะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 8 เดือน รวมเป็นเงินสูงสุด 800 บาทต่อคน

 

เปิดกำหนดการโอนเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 2568 รัฐจ่าย 3 รอบด้วยกัน

 

• รอบที่ 1: จ่ายวันที่ 16 กันยายน 2568 (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายใน 11 ก.ย.68)
• รอบที่ 2: จ่ายวันที่ 17 กันยายน 2568 (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายใน 12 ก.ย.68)
• รอบที่ 3: จ่ายวันที่ 18 กันยายน 2568 (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายใน 15 ก.ย.68)

 

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนได้ (เช่น ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุเกิน 60 ปีที่ไม่สามารถเปิดบัญชีได้) สามารถแจ้งความประสงค์ให้โอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือเข้าบัญชีบุคคลอื่นได้

 

คนที่พลาดการโอนเงินในรอบปกติ กรมบัญชีกลาง ยังมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยจะโอนเงินให้ใหม่ในอีก 3 ครั้ง เพื่อให้ผู้มีสิทธิทุกคนได้รับเงินอย่างแน่นอน ดังนี้

• ครั้งที่ 1 โอนเงินวันที่ 24 ตุลาคม 2568 (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายใน 20 ต.ค.68)
• ครั้งที่ 2 โอนเงินวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายใน 19 พ.ย.68)
• ครั้งที่ 3 โอนเงินวันที่ 24 ธันวาคม 2568 (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายใน 19 ธ.ค.68)

 

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 0 2270 6400 ในวัน และเวลาราชการ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง , กรุงเทพธุรกิจ