รู้แล้ว "โรคงูสวัด" ถ้าขึ้นรอบเอว จะเสียชีวิต จริงหรือไม่

"อ.เจษฎ์" แจงชัด หลังเกิดความเชื่อผิด ๆ ยัน โรคงูสวัดไม่ได้ร้ายแรงถึงตาย ยางกล้วยก็รักษาไม่ได้ ย้ำควรพบแพทย์ใช้ยาต้านไวรัส

"อ.เจษฎ์ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความเรื่อง "โรคงูสวัด" ระบุว่า

"ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคงูสวัด : งูสวัดใช้เนื้อกล้วยรักษาได้ & งูสวัดขึ้นรอบเอวแล้วต้องตาย"

โพสต์ต่อเนื่องจากข่าวเมื่อวาน ที่มีแม่ค้าในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโรคเริมงูสวัดบริเวณท้ายทอยและหลังหู แล้วไปหาหมอพื้นบ้าน ทำการเคี้ยวหมากพลู ท่องคาถา พ่นใส่ แล้วตอนเย็นกลับมีอาการเจ็บแสบทั่วตัว เป็นไข้ กินยาแก้ปวดก็ไม่หาย ผ่านไป 7 วัน อาการหนักขึ้นมีแผลพุพองทั่วร่างกาย จนต้องไปโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์แจ้งว่าติดเชื้อในกระแสเลือด เกือบเอาชีวิตไม่รอด กลายเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ไปรักษาโรคแบบผิดวิธี ควรมารักษากับแพทย์ดีกว่าไปซื้อยากินเอง หรือรักษาตามความเชื่อ

วันนี้ ก็จะขอรีโพสต์บทความเก่าที่เคยเขียนอธิบายไว้ เรื่องความเชื่อผิดๆ ที่เคยเจอมาเกี่ยวกับโรคงูสวัด นะครับ

-------------------

(รีโพสต์) "งูสวัด เป็นโรคไวรัสนะ ... ยางกล้วยไม่ได้ช่วยรักษา"

ไลน์จดหมายลูกโซ่เกี่ยวกับ "งูสวัด" มาอีกแล้ว อ้างว่าถ้าเป็น "เริม" ขึ้นรอบเอว ให้ไปเอา "ลูกกล้วยอ่อน" มาทา เชื้อไวรัสจะตาย เพราะยางกล้วยจะไปช่วยยึดไม่ให้เชื้อมันกระจาย เมื่อกระจายไม่ได้ เชื้อก็จะตายไปเอง ทำแล้วจะหายทุกรายแน่ๆ !?

.. ไม่จริงนะครับ ! ทายางกล้วยหรืออะไรทำนองนี้ ก็ไม่หายหรอก ต้องกินยาต้านไวรัสต่างหาก

โรคงูสวัด แม้ว่าจะเกิดจากเชื้อไวรัส แต่ก็เป็นคนละโรคกับโรคเริม คนที่เป็นโรคงูสวัดจะต้องเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน เมื่อภูมิต้านทานอ่อนแอลงจึงกลายเป็นโรคงูสวัด มักจะเป็นผื่นตามแนวเส้นประสาทของผิวหนัง และมักจะปวดมาก เจ็บแสบๆ ร้อนๆ บางคนมีอาการคันหรือเป็นไข้ได้ ระยะเวลาตั้งแต่เป็นจนหายประมาณ 7-14 วัน

สำหรับวิธีรักษาโรคงูสวัดนั้น เริ่มจากการรักษาตามอาการ ด้วยการกินยาระงับอาการปวด ระงับอาการคัน แล้วใช้ยาต้านไวรัส ช่วยระงับอาการและทำให้ระยะเวลาของโรคสั้นลง .. ไปจนถึงการใช้ยาทา กลุ่มอะไซโคลเวียร์เพื่อฆ่าเชื้อไวรัส

ส่วนพวกสมุนไพรนั้น ก็มีแค่ยาทาพวก "เสลดพังพอน" ที่นิยมนำมาใช้ทาระงับอาการ ซึ่งใช้ได้ดีพอสมควร ราคาไม่แพง แต่ไม่ใช่ว่าจะรักษาโรคให้หายได้นะครับ

--------------------

(รีโพสต์) "โรคงูสวัด หากขึ้นวนรอบตัวจะทำให้เสียชีวิต" เป็นเรื่องมั่ว นะครับ !!

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง โรคงูสวัด ที่ระบุว่า "หากขึ้นวนรอบตัว จะทำให้เสียชีวิต" ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ โรคงูสวัดจะเกิดตามแนวยาวของเส้นประสาท เพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายเท่านั้น และโรคงูสวัดไม่ถือเป็นโรคที่ร้ายแรง

โรคงูสวัด เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่เรียกว่า ไวรัสวาริเซลลา (varicella virus) ซึ่งเป็นเชื้อเดียวกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคสุกใส และอยู่ในกลุ่มเดียวกับไวรัสเริม

ผู้ป่วยที่เป็นโรคสุกใสแล้ว เมื่อหายจากโรค เชื้อไวรัสจะเข้าไปซ่อนในปมประสาท และจะถูกกระตุ้นเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ซึ่งไวรัสจะมีการแบ่งตัวทำให้การปล่อยเชื้อไวรัสออกมาตามแนวเส้นประสาท จะมีอาการแสดงเบื้องต้นคือปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนังซึ่งถูกควบคุมโดยแนวเส้นประสาทนั้น

ต่อมา จะมีผื่นแดงตามด้วยตุ่มน้ำในลักษณะเป็นกลุ่มเรียงตัวตามแนวเส้นประสาท โดยที่ตุ่มน้ำสามารถกลายเป็นตุ่มหนอง และแตกเป็นแผล หรือเป็นสะเก็ดตามมาได้

หลังจากอาการทางผิวหนังหายแล้ว อาจมีอาการปวดเรื้อรังในผู้ป่วยบางราย รวมถึงอาจมีแผลเป็นตามหลังได้

ซึ่งการเกิดการกระตุ้นของไวรัส varicella ที่ทำให้เกิดโรคงูสวัดนั้น มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ป่วยที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้ยาเคมีบำบัด โดยอาการที่พบมีความรุนแรงมากกว่าผู้ป่วยทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรง

ทั้งนี้ โรคงูสวัดจะเกิดตามแนวยาวของเส้นประสาท เพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายเท่านั้น แต่ถ้าเกิดในผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ หรือภาวะภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำมาก ๆ อาจจะมีอาการกำเริบและเกิดการลุกลามได้มากกว่าปกติ หรืออาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ แต่โดยสรุปแล้ว โรคงูสวัดไม่ถือเป็นโรคที่ร้ายแรง

การรักษาโรคงูสวัดนั้น มีทั้งการรักษาตามอาการ และการรักษาร่วมกับการใช้ยาต้านไวรัส รวมถึงให้ยาแก้ปวดปลายเส้นประสาทร่วมด้วย หากสงสัยว่าเป็นโรคงูสวัดแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากการรักษาในช่วงแรกของโรคจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000

ภาพประกอบ สร้างจาก AI Chula Genie

รู้แล้ว โรคงูสวัด ถ้าขึ้นรอบเอว จะเสียชีวิต จริงหรือไม่