"วิโรจน์"แจงแล้ว รับฟังคำเตือน "ชูวิทย์" ถึง "ด้อมส้ม"

วิโรจน์ พรรคประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวขอบคุณชูวิทย์สำหรับคำเตือนและข้อเสนอแนะ ยันเราไม่ได้มีดีลใด ๆ ที่ลึกลับซับซ้อน

กรณี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เรื่องด้อมส้ม การเมืองเก่ารุ่นไฮบริด เกี่ยวกับพรรคประชาชน แต่ที่แปลกใจอย่างยิ่ง คือ ผมต้องเปลี่ยนใจจาก “ด้อมส้ม” แปรสภาพเป็น “ด้อมส้มเน่า” ก็เพราะว่าแต่เขา (การเมืองเก่า) แต่อิเหนาเป็น (การเมืองเก่าแบบไฮบริด) เสียเอง นี่สิ!การเมืองที่ว่าใหม่ ที่ผมอยากได้ท้ายสุดมันดันกลายเป็นการเมืองเก่าจนเน่าคามือไปเสียฉิบ

"วิโรจน์"แจงแล้ว รับฟังคำเตือน "ชูวิทย์" ถึง "ด้อมส้ม"

ทำให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้เคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นกลับไปว่า ผมต้องขอขอบคุณคุณชูวิทย์สำหรับคำเตือนและข้อเสนอแนะ ผมเป็นคนที่รับฟังทุกคำติติง และรับรู้ถึงความหวังดีของคุณชูวิทย์ รวมถึงเชื่อมั่นในความปรารถนาดีที่คุณชูวิทย์มีต่อการเมืองไทย ที่อยากให้บ้านเมืองของเราเดินไปข้างหน้าเสมอ”

ผมขอยืนยันเพื่อให้คุณชูวิทย์สบายใจว่า เราไม่ได้มีดีลใด ๆ ที่ลึกลับซับซ้อนเลยครับ เราไม่ปฏิเสธว่าการเมืองไทยยังเต็มไปด้วยแรงดึงดูดและเกมการเมืองแบบเก่า แต่หากเรายิ่งซ้อนความระแวงเข้าไปในความซับซ้อน ก็จะยิ่งทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยที่จะพาสังคมออกจากวังวนรัฐพันลึกได้ สุดท้ายแล้วเราจึงเลือกที่จะยึดความคิดแบบซื่อ ๆ ตรง ๆ เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจครั้งนี้ครับ

"วิโรจน์"แจงแล้ว รับฟังคำเตือน "ชูวิทย์" ถึง "ด้อมส้ม"
จากนั้น นายชูวิทย์ ก็ได้กล่าว ขอบคุณ คุณวิโรจน์ ที่ได้สื่อสารกับผม ประชาชนที่เลือกพรรคของคุณมาตลอด ผม และประชาชนจะติดตาม แต่ไม่ใช่จับผิด ผมอยู่ในวงการเมืองไทยมานานพอที่จะรู้ดีว่า การตัดสินใจสำคัญให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศมันยาก และอาจเกิดแรงกระทบมหาศาลเพราะพรรคการเมืองมีกลุ่มผลประโยชน์ มีโหวตเตอร์สนับสนุนความคิดอ่านที่หลากหลาย ผมนั้นเคยอยู่ในวงการเมือง และใช้วิธีการแบบเดียวกับที่คุณวิโรจน์ทำ คือ ซื่อๆ ตรงไปตรงมา

"วิโรจน์"แจงแล้ว รับฟังคำเตือน "ชูวิทย์" ถึง "ด้อมส้ม"

แต่ในการเมืองไทยที่แวดล้อมด้วยสิ่งซับซ้อนปัจจัยที่อยู่เหนือความควมคุมผมว่าจนป่านนี้พรรคประชาชนทุกคนคงตกผลึกรู้ดีแล้วว่า ผมหมายถึงอะไรมาถึงวันนี้ บรรดาผู้บริหารพรรคตลอดจน ส.ส. ที่ทำหน้าที่แทนคนไทยต้องใช้การตัดสินใจทางการเมืองที่แหลมคม เด็ดขาด จากประสบการณ์ทางการเมืองที่ได้รับมาพอสมควรแล้วผมเป็นผู้สนับสนุนด้วยใจ ไม่มีข้าง ไม่ใช่อนุรักษ์นิยม และไม่ใช่เสรีนิยม ผมเป็นคนที่อยู่ข้างไหนก็ได้ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

วันนี้บรรดาผู้บริหารพรรคอาจไม่เห็นสิ่งที่ผมเตือนไม่ใช่ผมไปเก่ง หรือบังอาจใดๆ แต่เพราะผมเข้าใจบริบทการเมืองแบบไทยๆ ในช่วงชีวิตปัจจุบันไม่เพ้อฝันไปถึงอนาคตที่ไกลเกินไปผมเคยเป็นอย่างคุณวิโรจน์ และ ส.ส. พรรคประชาชนมาก่อนเรียนรู้จากความผิดพลาด จนเป็นประสบการณ์ จึงเตือนด้วยความหวังดี พรรคประชาธิปัตย์คือตัวอย่างที่ดี ที่แม้จะเต็มไปด้วยประสบการณ์ ยังพลาดเพียงเพราะการก้าวผิดเพียงก้าวเดียว 

แม้แต่ระบบพรรคที่ดีอย่างพรรคประชาธิปัตย์ยังพลาด จึงไม่มีอะไรไปการันตีว่าพรรคประชาชนจะไม่พลาดจนบัดนี้คงเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับพรรคที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย 

"วิโรจน์"แจงแล้ว รับฟังคำเตือน "ชูวิทย์" ถึง "ด้อมส้ม"
ผมก็เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์แต่พรรคการเมืองเป็นทางเลือกที่มีอย่างจำกัด เราต้องการให้พวกท่านได้ใช้อำนาจแทนพวกเราในฐานะประชาชนอย่างดีที่สุด

เมื่อใช้ไปในทางที่เราไม่เห็นด้วย จึงเป็นสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเราคือผู้เลือกพวกท่านเข้ามาทำหน้าที่เราไม่ใช่คู่แข่งขัน ไม่ได้เสนอตัวมาต่อสู้ ทางการเมืองใดๆ 
ให้พรรคประชาชนมองอนาคตอันใกล้นี้

 

จากการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นเกณฑ์ว่าคะแนนของพรรค หากมากขึ้นกว่าเดิมแสดงว่าท่านทำถูกแต่หากคะแนนน้อยลงกว่าเดิม แสดงถึงสัญญาณว่าพรรคของท่านพลาดในการตัดสินใจครั้งนี้ ขอบคุณ คุณวิโรจน์ ที่เปิดใจ นี่เป็นวิธีการที่ดีในการที่พรรค หรือสมาชิก ส.ส. จะสื่อสารกับประชาชน 

 

ขอให้ประสบความสำเร็จ และคงไว้ด้วยอุดมการณ์ งานการเมืองเป็นงานอาสา เป็นตัวแทนประชาชนจึงต้องเปิดใจรับฟัง แม้ว่าผมจะพูดแรง แต่ไม่เคยหวังร้ายแต่อย่างใด
ไม่ได้เชียร์ตะพึดตะพือ ไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เกิดการหลงตัวเอง แล้วทำให้พรรคพาอุดมการณ์ไปลงเหวคนอย่างผม รักมาก ก็วิจารณ์แรงมาก เป็นธรรมดา อย่าได้ถือสา 
ผมเป็นเพียงประชาชนคนเดินดิน กินข้าวแดงในคุกมาก่อน เห็นโลกและผู้คนที่หลากหลายมากมายในโลกการเมือง เราไม่ได้เลือกคนดี คนที่ไม่เคยพลาด แต่เลือกคนเลวน้อยที่สุด เพราะคนดีไม่สามารถยืนอยู่ได้ในการเมือง