เปิดชื่อ "ผักครอบจักรวาล" หมอเผย ลดความดัน ลดเสี่ยงหลอดเลือดตีบ

"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเงียบที่หลายคนอาจไม่รู้ตัว แต่ถ้าปล่อยไว้นานก็เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ง่าย ๆ ครับ นอกจากการกินยาตามแพทย์สั่งและปรับพฤติกรรมแล้ว การเลือกอาหารที่ช่วยเสริมการทำงานของหลอดเลือดก็เป็นอีกวิธีที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน สมุนไพรและผักใกล้ตัวบางชนิดนี่แหละ ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยลดความดันได้จริง ผมเลยหยิบ 5 ตัวอย่างมาเล่าให้ฟังครับ

1.กระเทียม

กระเทียมเป็นสมุนไพรคู่ครัวไทยที่ใส่ในแทบทุกเมนู แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ กระเทียมช่วยลดความดันได้ด้วยครับ เพราะมีสาร Allicin ที่ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ลดแรงดันในหลอดเลือด ผลลัพธ์คือความดันลดลงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันเลวด้วย การกินอาหารที่ใส่กระเทียมสด ๆ อย่างผัดผักหรือกินกับน้ำพริก ก็ถือว่าได้ประโยชน์เต็ม ๆ ครับ

2. ขึ้นฉ่าย

ขึ้นฉ่ายไม่ได้มีดีแค่กลิ่นหอม แต่มีสาร phthalides ที่ทำให้หลอดเลือดคลายตัว ความดันจึงลดลง อีกทั้งยังมีโพแทสเซียมสูงที่ช่วยปรับสมดุลกับโซเดียมในร่างกาย การกินขึ้นฉ่ายจึงเป็นเหมือนตัวช่วยเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น

3. กระเจี๊ยบแดง

สมุนไพรตัวนี้มีงานวิจัยจริงว่าช่วยลดความดันได้ โดยสาร anthocyanins ในกระเจี๊ยบแดงออกฤทธิ์คล้ายยาลดความดัน ช่วยยับยั้งการหดตัวของหลอดเลือด และมีฤทธิ์ขับโซเดียมออกเล็กน้อย การดื่มชากระเจี๊ยบแบบไม่ใส่น้ำตาลจึงเป็นอีกทางเลือกเพื่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

4. มะระขี้นก

แม้จะขมจนหลายคนอาจจะไม่ชอบ แต่สารขมในมะระขี้นกกลับมีประโยชน์ ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่นขึ้นและลดความดันได้ แถมยังช่วยคุมน้ำตาลในเลือด ซึ่งมักเป็นปัญหาคู่กับโรคความดันอีกด้วย

ถ้าอยากลอง อาจทำแกงจืดมะระยัดไส้หมู หรือผัดไข่ก็อร่อยได้ครับ

5. ชาเขียว

ชาเขียวมี catechins ที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด เพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือด และช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าการดื่มชาเขียวอย่างพอเหมาะช่วยให้ความดันลดลงได้

แนะนำชงดื่มแบบร้อน ไม่ใส่น้ำตาล จะดีที่สุดครับ

ความดันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยครับ การปรับอาหารและใช้สมุนไพรหรือผักที่เราคุ้นเคยก็ช่วยเสริมได้เยอะ ที่สำคัญคืออย่าลืมว่านี่เป็นเพียงตัวช่วยเสริม ไม่ใช่การรักษาหลัก ถ้าใครเป็นความดันอยู่แล้วก็ต้องกินยาตามแพทย์สั่ง ควบคู่กับการปรับพฤติกรรม เช่น ลดเค็ม ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้พอครับ การดูแลเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกวันจะช่ว