- 11 ต.ค. 2568
“บิ๊กดุลย์” พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ลั่นชายแดนต้อง “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีสัญญาณโทรศัพท์” ลงพื้นที่พร้อม รมว.พลังงาน ติดตั้งโซลาร์เซลล์ 100 ชุด
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อติดตามโครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 100 ชุด และระบบพลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกลที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ พร้อมตรวจเส้นทางเพื่อซ่อมแซมและปรับปรุงถนน เพื่อให้การส่งกำลังบำรุงและภารกิจทางการแพทย์ของกองทัพเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย
พลโท อดุลย์ กล่าวว่า
“ทหารที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ควรมีน้ำสะอาดใช้ มีไฟฟ้าให้แสงสว่าง มีถนนหนทางที่มั่นคง และมีสัญญาณโทรศัพท์ติดต่อครอบครัวได้ เพราะกำลังใจของคนแนวหน้า คือพลังที่หล่อเลี้ยงความมั่นคงของชาติ”
พร้อมย้ำว่า สำหรับตนแล้ว “ความมั่นคง” ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องของกำลังรบ แต่คือการทำให้คนของเราอยู่ได้ อยู่ดี และมีศักดิ์ศรีในชีวิต โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งมักต้องเผชิญความยากลำบากกว่าพื้นที่อื่น
พลโท อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ตนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า มุ่งหน้าไปยังชายแดนอีสานใต้ จุดหมายคือ ฐานปฏิบัติการพลาญบั้งไฟ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่รอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกองทัพบก และเป็น “บ้าน” ของกำลังพลที่ปกป้องผืนแผ่นดินทุกวัน
“ผมตั้งใจมาดูสภาพพื้นที่จริงด้วยตัวเอง เพราะบางอย่าง... ไม่มีวันเข้าใจได้จากในห้องประชุม” พลโท อดุลย์ กล่าว
เขาระบุว่า การแก้ไขปัญหาชายแดนในภาวะปัจจุบัน จำเป็นต้องอาศัย “การบูรณาการของทุกภาคส่วน” ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม พลังงาน ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้หน่วยงานหลักของรัฐสามารถเข้าถึงพื้นที่ชายแดนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รองรับทั้งการส่งกำลังบำรุง การลาดตระเวน และการส่งกลับทางสายแพทย์
พร้อมกันนี้ พลโท อดุลย์ ยังได้กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาชายแดนในระยะยาวว่า
“น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีสัญญาณโทรศัพท์” คือพื้นฐานของคุณภาพชีวิต และคือหัวใจของความมั่นคงในระยะยาว
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาร่วมด้วยตนเอง พร้อมผลักดันแผนติดตั้งโซลาร์เซลล์และระบบพลังงานทดแทนให้เข้าถึงพื้นที่ที่ยังมืด รวมทั้งผู้แทนจากกระทรวงคมนาคมที่ร่วมสำรวจเส้นทาง เพื่อปรับปรุงถนนและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดน
พลโท อดุลย์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า
“ในฐานะคนที่เติบโตจากชายแดน ผมรู้ดีว่า ไม่ว่าพื้นที่จะไกลแค่ไหน ก็ไม่ควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”






