"ทนายไพศาล" ชี้ ผัวเมียขายไก่ปิ้ง ไม่มีเงินเสียค่าปรับจะโดนอะไร

เรียกเสียงวิจารณ์สนั่นโซเชียล หลังมีรายงานว่า เทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี ส่งหนังสือเรียกเก็บค่าปรับจากผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ โดยบางรายถูกเรียกเก็บตั้งแต่ 90,000 บาท ไปจนถึง 159,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ของผู้ค้ารายวัน

 

 

หนึ่งในนั้นคือ นายธวัชชัย อายุ 25 ปี พ่อค้าไก่ปิ้งเสียบไม้ ที่ได้รับหนังสือจากเทศบาลให้ไปชำระค่าปรับตาม พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เป็นจำนวนเงินถึง 159,000 บาท ทำให้เจ้าตัวตกใจอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าการขายของเล็ก ๆ หน้าบ้านจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

 

ล่าสุด นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีนี้ ในหัวข้อ “พ่อค้าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จะโดนอะไรบ้าง” โดยทนายไพศาลอธิบายว่า เทศบาลอาจใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 ในการปรับผู้ประกอบการ โดยระบุว่า

• หากพื้นที่เกิน 200 ตร.ม. มีโทษปรับ ไม่เกิน 50,000 บาท และจำคุก ไม่เกิน 6 เดือน
• หากพื้นที่ ไม่เกิน 200 ตร.ม. ปรับ ไม่เกิน 25,000 บาท และจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน

ซึ่งจากตัวเลขค่าปรับที่ออกมา เขามองว่า “อาจเกินสัดส่วนของกฎหมาย” และควรพิจารณาจากสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย เพราะกฎหมายต้องไม่เพียงแต่ “ถูกต้อง” แต่ต้อง “เป็นธรรม” ด้วยเช่นกัน ทนายไพศาลตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า หากเทศบาลระบุว่าเป็นการกระทำซ้ำ หรือฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานซ้ำหลายครั้ง ก็อาจเป็นเหตุผลที่ยอดค่าปรับสะสมสูงถึงหลักแสนได้ แต่ในมุมของเขา เห็นว่า ควรมีการเตือนก่อนปรับ ไม่ใช่ลงโทษหนักทันที

 

 

พร้อมให้คำแนะนำกับผู้ค้ารายย่อยที่ถูกปรับว่า “ถ้าไม่มีเงินจ่ายภายใน 30 วัน ก็ไม่ต้องรีบร้อนจ่าย ให้รอให้เทศบาลไปแจ้งตำรวจ แล้วพนักงานสอบสวนจะเรียกไปพูดคุย จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการศาล ซึ่งศาลจะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง และหากไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 90 วัน หรือขอเพิกถอนคำสั่งต่อศาลปกครองได้”

 

 

ทนายไพศาลทิ้งท้ายอย่างตรงไปตรงมาว่า เข้าใจเจ้าหน้าที่ว่าต้องทำตามหน้าที่ แต่ขอให้มองถึงสภาพเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย“คนทำมาหากินสุจริตโดนปรับเป็นแสน แล้วอย่างนี้จะเหลือใครล่ะครับ? ถ้าจะเข้มขนาดนี้ ช่วยเข้มกับนักการเมือง กับสแกมเมอร์บ้างเถอะครับ อย่ากดชาวบ้านเลย

ชมคลิป