- 30 ต.ค. 2568
อย.ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ทลายโรงงานเครื่องสำอางผิดกฎหมายเกือบ 70,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
วันที่ 30 ตุลาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. นำหมายค้นศาลแขวงบางบอน เข้าตรวจค้นโกดังเครื่องสำอางในพื้นที่แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร พบเป็นโกดังกระจายสินค้าขนาดใหญ่ โดยพบเครื่องสำอางลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวนเกือบ 70,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
นางจิตตรา หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ที่โกดังแห่งนี้เคยมีการตรวจค้นแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 67 พบสินค้าผิดระเบียบ อย. เป็นประเภทน้ำยาย้อมสีผม ที่มีคนซื้อไปใช้แล้วเกิดอาการผมร่วงหนัก ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้า
ในครั้งนี้ก็พบสินค้าผิดระเบียบ อย. หลายประเภท ทั้งน้ำยาย้อมผม ผ้าอนามัย ครีมกันแดด และครีมบำรุงผิว ซึ่งต้องจัดการอย่างเด็ดขาด ไม่มีผ่อนปรน
โดยสินค้าทุกประเภทจะถูกเก็บตัวอย่างส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบว่ามีส่วนผสมใดบ้าง
เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคผ่านทาง อย. และ ปคบ. ว่ามีการซื้อเครื่องสำอางดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่มีเลข อย. และฉลากภาษาไทย จากนั้นทางตำรวจได้ทำการสืบสวนจนพบว่าโกดังแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บ แพ็ก และจำหน่ายสินค้า โดยมีนายทุนชาวต่างชาติอยู่เบื้องหลัง
ของกลางที่ตรวจยึดได้ส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทยและไม่มีเลข อย. วางขายผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ฝากเตือนผู้จำหน่ายสินค้าที่ไม่ผ่านระเบียบของ อย. มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อีกทั้งสินค้าบางประเภทแม้จะขออนุญาตไว้แล้ว แต่หากนำเข้าไม่ผ่านด่าน อย. หรือเป็นการลักลอบนำเข้าไม่เสียภาษี จะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
นอกจากนี้ สินค้าที่จำหน่ายในประเทศไทยจะต้องมีฉลากภาษาไทย หากไม่มีจะถือว่าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ






