- 03 พ.ย. 2568
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตะลุยจับแก๊งเปิดบัญชีม้า 6 ราย เอื้อแก๊งสแกมเมอร์ (Scammer) หลอกผู้เสียหายสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.,พล.ต.ต. โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์
ปิยะสมบูรณ์, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส, พ.ต.อ.รัชภูมิกุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พงศกร โนรี ประจำ(สบ 5) บก.ปคม., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง
รอง ผกก.3 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม สว.กก.3 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กก.3 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม
1. นางพาดีฯ อายุ 72 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงเดชอุดม ที่ 178/2568 ลง 17 ก.ย. 68 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริต หรือร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งและเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงืนฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้าน หมู่ 8 หมูม้น อ. เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด
2. น.ส.เสาวนิตย์ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 633/2568 ลง 7 ต.ค. 68 ความผิดฐาน “สนับสนุนในความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดย หลอกลวงำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่ง, ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงิน อิเล็กทรอนิกส์ของตน
โดยมิได้มีเจตนาที่จะเพื่อหรือเพื่อกิจการที่เกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยอมใช้ หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่น”
สถานที่จับกุม บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
3. นายปฐมพงศ์ฯ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 645/2568 ลง 7 ต.ค. 68 ความผิดฐาน “สนับสนุนในความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือ หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ปลอมเอกสารราชการและ ใช้เอกสารราชการปลอม และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงิน อิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือใช้เลข หมายโทรศัพท์สำหรับการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
สถานที่จับกุม หน้าบริษัทรับซื้อของเก่า ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
4. น.ส.อภิญญาฯ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์
ที่ จ.38/2568 ลง 8 ส.ค. 68 ความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นชายหรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน โดยประการที่รู้ หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าแห่งหนึ่ง ต.หนองบัว อ.นามน จ.กาฬสินธุ์
5. นายศรชัยฯ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 392/2568 ลง 7 พ.ย. 67 ความผิดฐาน "ร่วมกันโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด"
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 40 ม.4 ต.หนองบัว อ.นามน จ.กาฬสินธุ์
6. นายต้อยฯ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 168/2566 ลง 15 ก.ค. 66 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง”
สถานที่จับกุม บริเวณบ้าน ถนน เอกชัย แขวงบางบอนเหนือ กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี พ.ศ.2567-2568 ผู้เสียหายจำนวนหลายรายได้ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายแก๊งสแกมเมอร์ (Scammer) ที่ได้หลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น กลุ่มจัดหางานไปต่างประเทศทางเฟซบุ๊ก, เพจเฟซบุ๊ก “สินเชื่อบุคคล ธุรกิจ” หลอกกู้เงินออนไลน, ทักแชท Messenger หลอกให้หลงรัก หลอกให้ลงทุนซื้อหุ้นทองคำ และหลอกร่วมลงทุนเงินดิจิตอล โดยแก๊งสแกมเมอร์จะใช้กลอุบายการสร้างความน่าเชื่อถือแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร ตำแหน่งสูง หลอกพูดคุยสร้างความคุ้นเคย จากนั้นหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุน ซื้อหุ้นทองคำ, ลงทุนเงินดิจิตอล และผู้เสียหายบางรายถูกหลอกผ่านเฟซบุ๊กกลุ่มจัดหางานในต่างประเทศ และผู้เสียหายบางรายถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวผ่านการหลอกกู้เงินออนไลน์ ซึ่งการหลอกลวงผู้เสียหายของแก๊งสแกมเมอร์ ทำให้ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท โดยผู้เสียหายจะเป็นกลุ่มอดีตข้าราชการเกษียณสูงวัย, กลุ่มที่มีความต้องการกู้เงิน และกลุ่มที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนและร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาที่เปิดบัญชีม้าขายให้กับแก๊งสแกมเมอร์ จำนวน 6 ราย ซึ่งจับกุมได้หลายพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ, จ.ร้อยเอ็ด, จ.กาฬสินธุ์, จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง และผู้ต้องหาบางรายมีหมายจับติดตัวถึง 4 หมายจับ ในหลายพื้นที่ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนผู้รับชอบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ทั้ง 6 รายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย ผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร และไม่ได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้เอง แต่ยินยอมให้บัญชีธนาคารกับผู้อื่นหรือคนร้าย เพื่อนำไปใช้ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ต่างๆ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊งสแกมเมอร์, พนันออนไลน์ และการฟอกเงิน ที่มีความเชื่อมโยงกับผู้เปิดบัญชีม้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นปลายทางรับเงินที่ได้จากการหลอกลวง การกระทำดังกล่าวมีโทษทางกฎหมายร้ายแรง จึงขอเตือนประชาชนไม่ควรรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นเด็ดขาด เพราะอาจถูกดำเนินคดีในฐานะสนับสนุน หรือ ผู้ร่วมกระทำความผิดทางอาญา
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม สว.กก.3 บก.ปคม.
โทร. 09 9565 3545
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”






