รู้แล้ว ศพหญิงสาวเสียชีวิตปริศนา ลอยอยู่ในคลองชลประทาน คือใคร

ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม พบศพหญิงปริศนาลอยอยู่ในคลองชลประทาน ลักษณะถูกฆาตกรรมและอำพรางด้วยการถ่วงน้ำ โดยศพถูกมัดติดกับแท่งคอนกรีตที่หล่อรวมกับท่อ PVC เพื่อให้จมอยู่ใต้น้ำ สภาพศพบวมอืดและส่งกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน และไม่พบเอกสารระบุตัวตนในที่เกิดเหตุ

 

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน มีชายอายุ 26 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร เข้าแจ้งความว่ามารดาอายุ 49 ปี หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน โดยขับรถออกจากบ้านพร้อมโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่องและขาดการติดต่อ ทำให้ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตในคลองอาจเป็นบุคคลเดียวกันกับที่มีการแจ้งหายไว้ แต่ต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

 

จากสภาพศพและลักษณะการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ประเมินเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะถูกคนใกล้ชิดหรือคนรู้จักลวงออกจากบ้าน ก่อนจะเกิดเหตุรุนแรงอันนำไปสู่การเสียชีวิต เนื่องจากลักษณะของการลงมือและวิธีการอำพรางศพบ่งชี้ว่าคนร้ายรู้จักพื้นที่และมีเวลาจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับถ่วงน้ำ เพื่อให้ศพจมไม่ให้พบง่าย

 

ตำรวจพร้อมแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด รวมถึงสอบปากคำชาวบ้านผู้พบศพเป็นคนแรก ซึ่งระบุว่า ขณะจะออกไปหาปลาพบศพลอยอยู่กลางคลองจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าไม่ได้มีการแตะต้องศพก่อนจนกว่าตำรวจจะมาถึง

 

 

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งชันสูตรหาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลบุคคลใกล้ชิดผู้สูญหาย ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุและคลี่คลายคดี 

 

ล่าสุด มีรายงานยืนยันแล้วว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.สกุลรัตน์ อายุ 49 ปี ซึ่งลูกชายของผู้เสียชีวิตเล่าว่า แม่ตนหายไปจากบ้านเมื่อวันที่ 2 พ.ย.68 เวลาประมาณ 12:00 น. พร้อมโทรศัพท์ iPhone 16 จำนวน 1 เครื่อง และรถนิสสัน จุ๊ก ทะเบียน 3 กก6181 กรุงเทพ โดยเกรงว่าจะมีอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โคกขาม 

อย่างไรก็ตามจากการ สอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพรับจำนองที่ดิน เปิดร้านกาแฟ เป็นแม่หม้าย หรือว่าเป็นคนมีเงินและเป็นคนชอบแต่งตัวใส่ทองเส้นใหญ่ และได้คบหากับเซียนพระ อยู่ในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้ว คาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นเซียนพระคนดังกล่าว