เปิดแผน 5 ข้อ ประกาศสงคราม"สแกมเมอร์" ปกป้องคนไทยจากภัยออนไลน์

นายกฯประกาศสงครามกับ “สแกมเมอร์” ประเทศไทยต้องปลอดภัย รวมพลังรัฐ–เอกชน เดินหน้าเชิงรุก ปกป้องประชาชนจากภัยออนไลน์

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่าง 15 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ

เปิดแผน 5 ข้อ ประกาศสงคราม"สแกมเมอร์" ปกป้องคนไทยจากภัยออนไลน์

พิธีดังกล่าวสะท้อนการรวมพลังของหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกัน “ประกาศสงครามกับอาชญากรรมออนไลน์” อย่างเป็นระบบ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สงครามครั้งนี้เป็น “ภารกิจร่วมกันของทั้งประเทศ” ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยของมิจฉาชีพทางเทคโนโลยีที่กำลังบ่อนทำลายสังคมไทย

เปิดแผน 5 ข้อ ประกาศสงคราม"สแกมเมอร์" ปกป้องคนไทยจากภัยออนไลน์
นายกฯอนุทิน กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศ เรามีจุดยืนเดียวกันคือ ต้องทำให้ประชาชนปลอดภัยจากภัยสแกมเมอร์ ซึ่งไม่ใช่เพียงความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่ยังส่งผลต่อจิตใจ ความมั่นคง และภาพลักษณ์ของประเทศ” 


นายกรัฐมนตรีระบุว่า การลงนามใน MOU ฉบับนี้ ไม่ใช่เพียงเอกสาร แต่เป็น เครื่องมือสำคัญ ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติจริง โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกด้าน ทั้งงบประมาณ เทคโนโลยี และการประสานนโยบาย เพื่อให้เกิดผลในระยะสั้นและยั่งยืนในระยะยาว

สำหรับแนวทางความร่วมมือ จะดำเนินการเชิงรุกใน 5 ด้านหลัก ได้แก่


1. บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและเท่าเทียม กับทุกผู้กระทำความผิดและผู้อยู่เบื้องหลัง
2. สร้างระบบเชื่อมโยงข้อมูลข่าวกรองและการสืบสวน ระหว่างหน่วยงานแบบบูรณาการ
3. ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อสกัดเส้นทางการเงินของอาชญากร
4. ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจจับพฤติกรรมและเส้นทางเงินต้องสงสัย
5. สร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน ผ่านการให้ความรู้เท่าทันภัยออนไลน์ และส่งเสริมการแจ้งเบาะแส


นายอนุทินย้ำว่า การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ซึ่งถือเป็น ทีมไทยแลนด์ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือสร้างประเทศไทยให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนดี และเป็นดินแดนต้องห้ามของอาชญากรรมทุกรูปแบบ


 “นี่ไม่ใช่ภารกิจของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภารกิจของประเทศ เราจะร่วมกันทำให้เห็นผลจริง เพื่อปกป้องประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศไทย” นายอนุทินกล่าวทิ้งท้าย