- 10 พ.ย. 2568
ลูกเนียง ผักพื้นบ้านกลิ่นฉุนรสชาติมัน ที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะในภาคใต้ แต่รู้หรือไม่ว่า การรับประทาน ลูกเนียงดิบ ในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อย่ามองข้าม กินลูกเนียงดิบมากเกินไป เสี่ยงไตวายถึงชีวิต
ภัยร้ายซ่อนเร้นในลูกเนียง: กรดเจงโคลิค
สาเหตุที่ทำให้ลูกเนียงมีพิษคือ "กรดเจงโคลิค (djenkolic acid)" ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีกำมะถันสูง สารพิษชนิดนี้มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง หากอาการรุนแรงมาก จะนำไปสู่ภาวะ ไตล้มเหลว หรือไตวายเฉียบพลัน จนอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็ก
เช็กอาการเมื่อได้รับพิษลูกเนียง
ความเป็นพิษจากลูกเนียงโดยทั่วไปพบได้น้อย แต่มักเกิดขึ้นเมื่อรับประทาน ลูกเนียงดิบปริมาณมาก (มีรายงานตั้งแต่ 1-20 เมล็ด) ร่วมกับการดื่มน้ำน้อย อาการที่ควรสังเกตมีดังนี้
อาการทางไต: ปวดเอวอย่างรุนแรง, ปวดบริเวณขาหนีบ
ปัสสาวะผิดปกติ: ปัสสาวะลำบาก, น้ำปัสสาวะขุ่นเป็น สีน้ำนม, หรืออาจมี ปัสสาวะเป็นเลือด
ระบบทางเดินอาหาร: ปวดท้อง, คลื่นไส้, อาเจียน
อาการรุนแรง: ปัสสาวะไม่ออก (เกิดภาวะคล้ายนิ่ว) ซึ่งเป็นอันตรายและอาจทำให้เสียชีวิตได้
ข้อสังเกต: ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 3-4 วัน แต่บางรายอาจมีไข้ต่ำ, ปัสสาวะน้อย และมีความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
วิธีลดพิษลูกเนียงก่อนรับประทาน
เพื่อความปลอดภัยและลดปริมาณสารพิษ (กรดเจงโคลิค) แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
- การเพาะ: นำเมล็ดลูกเนียงไปเพาะในทรายจนมี หน่อต้นอ่อนงอกออกมา
- การต้ม: นำเมล็ดไป ต้มให้สุก ก่อนรับประทาน
- การตากแห้ง: หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไป ตากแดด ก่อนนำมารับประทาน
หากมีอาการผิดปกติ... อย่ารอช้า
หากคุณมีอาการสงสัยว่าอาหารเป็นพิษจากลูกเนียง หรือหลังกินแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน มึนงง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการกินลูกเนียงให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา
หน่วยงานที่ตรวจสอบและให้ข้อมูล
- กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- ขอบคุณข้อมูลจาก: ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม






