อย่ามองข้าม กินลูกเนียงดิบมากเกินไป เสี่ยงไตวายถึงชีวิต

ลูกเนียง ผักพื้นบ้านกลิ่นฉุนรสชาติมัน ที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะในภาคใต้ แต่รู้หรือไม่ว่า การรับประทาน ลูกเนียงดิบ ในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

อย่ามองข้าม กินลูกเนียงดิบมากเกินไป เสี่ยงไตวายถึงชีวิต 

ภัยร้ายซ่อนเร้นในลูกเนียง: กรดเจงโคลิค

 

สาเหตุที่ทำให้ลูกเนียงมีพิษคือ "กรดเจงโคลิค (djenkolic acid)" ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีกำมะถันสูง สารพิษชนิดนี้มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง หากอาการรุนแรงมาก จะนำไปสู่ภาวะ ไตล้มเหลว หรือไตวายเฉียบพลัน จนอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็ก

 

อย่ามองข้าม กินลูกเนียงดิบมากเกินไป เสี่ยงไตวายถึงชีวิต

เช็กอาการเมื่อได้รับพิษลูกเนียง

ความเป็นพิษจากลูกเนียงโดยทั่วไปพบได้น้อย แต่มักเกิดขึ้นเมื่อรับประทาน ลูกเนียงดิบปริมาณมาก (มีรายงานตั้งแต่ 1-20 เมล็ด) ร่วมกับการดื่มน้ำน้อย อาการที่ควรสังเกตมีดังนี้

 

อาการทางไต: ปวดเอวอย่างรุนแรง, ปวดบริเวณขาหนีบ

 

ปัสสาวะผิดปกติ: ปัสสาวะลำบาก, น้ำปัสสาวะขุ่นเป็น สีน้ำนม, หรืออาจมี ปัสสาวะเป็นเลือด

 

ระบบทางเดินอาหาร: ปวดท้อง, คลื่นไส้, อาเจียน

 

อาการรุนแรง: ปัสสาวะไม่ออก (เกิดภาวะคล้ายนิ่ว) ซึ่งเป็นอันตรายและอาจทำให้เสียชีวิตได้

 

ข้อสังเกต: ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 3-4 วัน แต่บางรายอาจมีไข้ต่ำ, ปัสสาวะน้อย และมีความดันโลหิตสูงร่วมด้วย

 

อย่ามองข้าม กินลูกเนียงดิบมากเกินไป เสี่ยงไตวายถึงชีวิต

วิธีลดพิษลูกเนียงก่อนรับประทาน

เพื่อความปลอดภัยและลดปริมาณสารพิษ (กรดเจงโคลิค) แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้

  • การเพาะ: นำเมล็ดลูกเนียงไปเพาะในทรายจนมี หน่อต้นอ่อนงอกออกมา
  • การต้ม: นำเมล็ดไป ต้มให้สุก ก่อนรับประทาน
  • การตากแห้ง: หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไป ตากแดด ก่อนนำมารับประทาน

 

หากมีอาการผิดปกติ... อย่ารอช้า

 

หากคุณมีอาการสงสัยว่าอาหารเป็นพิษจากลูกเนียง หรือหลังกินแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน มึนงง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการกินลูกเนียงให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา

 

หน่วยงานที่ตรวจสอบและให้ข้อมูล

  • กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  • ขอบคุณข้อมูลจาก: ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม