- 12 พ.ย. 2568
คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ทำความเข้าใจใหม่ ใครผ่านเกณฑ์ 3 ข้อ เตรียมรับสิทธิรอบใหม่ เตรียมชง ครม. ธ.ค. 68 เริ่มใช้ ม.ค. 69
“คนละครึ่งพลัส เฟส 2” นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนิน โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบระบบและแนวทางจัดสรรสิทธิ โดยมีแนวโน้มว่าผู้ที่เข้าร่วมโครงการเฟสแรกจะมีสิทธิร่วมต่อในเฟสใหม่ เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากคึกคักอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างผู้ที่เคยได้รับสิทธิกับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วม โดยเบื้องต้นมีแนวคิดว่า
ผู้ที่เข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” เฟสแรก และใช้สิทธิครบ 2,000 บาทแล้ว จะสามารถเข้าร่วมต่อในเฟส 2 ได้
ผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมเฟสแรก จะสามารถลงทะเบียนใหม่ในเฟส 2 และได้รับวงเงิน 4,000 บาท เพื่อให้มียอดสิทธิเท่ากันกับผู้ที่ร่วมในเฟสก่อน
นายลวรณระบุเพิ่มเติมว่า เงินจากผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 จะถูกนำมารวมไว้ใช้ในเฟส 2 และรัฐบาลจะใช้งบประมาณจากงบฯ กลางปี 2569 ในการดำเนินโครงการ โดยพิจารณาจัดสรรงบฯตามวงเงินที่มีอยู่ เพื่อบริหารได้อย่างเหมาะสม
คนละครึ่งพลัส เฟส 2 เปิด 3 ข้อควรรู้ ใครผ่านเกณฑ์ เตรียมรับสิทธิรอบใหม่
กลุ่มที่จะได้สิทธิลำดับแรก “คนละครึ่งพลัส เฟส 2”
1.ผู้ที่เข้าร่วมและใช้สิทธิครบตามเงื่อนไขในเฟสแรก
2.ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จแต่ถูกตัดสิทธิ เนื่องจากไม่ใช้จ่ายในรอบแรก (อาจได้สิทธิเข้าร่วมใหม่หากงบฯเพียงพอ)
3.ผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน จะได้รับสิทธิรอบใหม่เป็นลำดับถัดไป
4.เตรียมเสนอ ครม. ธ.ค. 2568 เริ่มใช้สิทธิ ม.ค. 2569
กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนธันวาคม 2568 เพื่อให้สามารถเปิดใช้สิทธิได้จริงในช่วงเดือนมกราคม 2569 ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” (G Wallet) ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น.เช่นเดิม
คนละครึ่งพลัส 14 วัน ประชาชนใช้จ่ายหมดแล้วกว่า 4.5 แสนราย
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า พบจำนวนประชาชนที่ใช้จ่ายผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” หมดวงเงินหรือใช้สิทธิเต็มวงเงินแล้ว (2,000 บาท) (2,400 บาท) จำนวน 457,151 ราย ขณะความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งพลัส ข้อมูล ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. พบว่าที่มีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบและเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 903,480 ราย ทั่วประเทศ ส่วนยอดการใช้จ่ายสะสมภายใต้โครงการอยู่ที่ 31,837.1 ล้านบาท แบ่งเป็น
- ร้านค้าปกติ 31,350.7 ล้านบาท
- เงินที่ภาครัฐร่วมจ่าย จำนวน 15,473.4 ล้านบาท
- เงินที่ประชาชนจ่ายเอง จำนวน 15,877.3 ล้านบาท
- ร้านค้าผ่าน Food Delivery Platform 486.4 ล้านบาท
- เงินที่ภาครัฐร่วมจ่าย จำนวน 238.2 ล้านบาท
- เงินที่ประชาชนจ่ายเอง จำนวน 248.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท






