- 19 พ.ย. 2568
พ่อค้าคู่กรณีลุงแท็กซี่เข้าพบตำรวจพร้อมชี้แจงเหตุเตือนให้หลบแต่กลับทำร้ายร่างกาย งานนี้เหมือนหนังคนละม้วน
จากกรณีลุงศักดา คนขับแท็กซี่พลเมืองดี วัย 56 ปี ถูกพ่อค้ารถผลไม้ทำร้ายร่างกายจนสลบกลางเมืองกรุง ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยจำนวนมาก เหตุเกิดจากรถกระบะเร่ขายผลไม้จอดบนถนนกีดขวางการจราจร ทำให้รถติด ลุงศักดา ขับรถผ่านมา จึงลดกระจกลงแจ้งให้รถเร่ขายผลไม้ช่วยจอดให้ชิดขอบทาง หรือไปจอดตรงจุดอื่น เนื่องจากรถติด ทำให้คู่กรณีไม่พอใจ เดินมาไล่ทำร้ายจนสลบและได้รับบาดเจ็บ
หลังเยี่ยมดูอาการลุงศักดาแล้ว ทางผู้เกี่ยวข้องได้พาลุงไปดูจุดเกิดเหตุ ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพื่อตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
จากการสอบถามเบื้องต้น ลุงศักดา เล่าว่า "เมื่อวานนี้ช่วงประมาณหนึ่งทุ่มเศษ ขณะที่กำลังขับรถไปตามถนนสุทธิสาร มุ่งหน้าไปแยกสุทธิสาร ซึ่งเป็นถนนสองเลนสวน ใกล้ซอยสุดประเสริฐ 2 ขณะที่ขับรถอยู่ พบว่ารถคู่กรณีซึ่งเป็นรถขายผลไม้ จอดบนถนนเทียบทางเท้าทำให้รถคันหลังติดขัด ตนจึงลดกระจกบอกคู่กรณีให้จอดหลบข้างทางหน่อย เพราะทำรถติด ก่อนจะขับผ่านไป
ครู่ต่อมาปรากฏว่ารถของคู่กรณีขับมาปาดหน้ารถตนและจอด พร้อมตรงเข้ามาจะทำร้าย ตนจึงวิ่งลงจากรถเพื่อหนีไปหาน้องชายที่อยู่ใกล้ ๆ ในจังหวะนั้น คู่กรณีไล่ตามมาทุบตีจนสลบ ตามภาพในคลิปที่พลเมืองดีถ่ายไว้ และเมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตนอยู่โรงพยาบาลแล้ว อาการบาดเจ็บมีศีรษะแตก ข้อศอกมีรอยฟกช้ำ และยังมีอาการมึนงง ปวดตามร่างกาย"
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” ประสาน พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร เพื่อนำผู้บาดเจ็บเข้าแจ้งความดำเนินคดี พร้อมระบุว่าเหตุการณ์นี้เป็นการกระทำที่รุนแรงและเป็นภัยต่อสังคม เบื้องต้น ผกก.สน.สุทธิสาร ได้เร่งรัดตรวจสอบ ทำให้ทราบตัวคู่กรณีแล้ว และให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
ต่อมา เวลา 11.30 น. คู่กรณีเดินทางมายัง สน.สุทธิสาร เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น นายคมสัน หรือ “โก๊ะ” (เสื้อดำ ผอม) เป็นคนขับรถ และนายคมสัน หรือ “จุก” (เสื้อขาวดำ) ซึ่งปรากฏในคลิป นายโก๊ะ เล่าว่า ขณะขับรถขายมะพร้าวน้ำหอมและมีลูกค้าเรียก จึงจอดรถชั่วคราว ระหว่างนั้นรถของผู้บาดเจ็บขับมาและกดบีบแตรหลายครั้ง ขณะที่ตนพยายามขับรถออกไป ผู้บาดเจ็บยังบีบแตรใส่อีก จึงจอดเพื่อพูดคุย แต่ผู้บาดเจ็บตอบกลับว่า "มึงไม่ต้องมายุ่ง มึงรุ่นลูก" และพยายามไปหาเรื่องนายจุก ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลัง
นายจุก เล่าว่า ตนอารมณ์ร้อนและทำตามสัญชาตญาณป้องกันตัว เพราะท่าทางของผู้บาดเจ็บเหมือนจะต่อสู้ จึงเกิดการชกต่อย และในบางช่วงผู้บาดเจ็บพยายามหยิบอะไรบางอย่าง จึงไล่ตามไปและชกต่อยจนสลบ หลังเกิดเหตุทั้งสองได้เข้ามาแสดงตัวที่ สน.สุทธิสาร ไม่ได้หลบหนี และเมื่อเห็นคลิปเหตุการณ์ก็ยอมรับว่าเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย
พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร ซึ่งเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ ระบุว่า ขณะนี้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยและแสดงความขอโทษผู้บาดเจ็บ ส่วนผู้บาดเจ็บเองไม่ติดใจเอาความ ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ก่อเหตุทั้งสอง และพิจารณาตามพยานหลักฐาน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”






