- 20 พ.ย. 2568
ไวรัสตับอักเสบอี โรคตับอักเสบจากอาหารและน้ำปนเปื้อน แม้คนสุขภาพดีหรือไม่ดื่มเหล้าก็เสี่ยงป่วยได้ อาการเริ่มจากไข้ คลื่นไส้ จนถึงตับวายเฉียบพลัน
ไวรัสตับอักเสบอี (Hepatitis E Virus – HEV) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิด การอักเสบของตับ สามารถเกิดได้ทั้งแบบเฉียบพลันและบางรายอาจรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่ มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือ หญิงตั้งครรภ์ไตรมาสที่สาม ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนและอัตราตายสูง
การติดต่อหลัก ของไวรัสชนิดนี้มาจาก อาหารและน้ำปนเปื้อน เช่น การรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรือน้ำไม่สะอาด นอกจากนี้ยังอาจติดจาก สัมผัสอุจจาระของผู้ติดเชื้อ หรือจาก สัตว์นำเชื้อ เช่น หมูหรือเนื้อหมูไม่สุก
กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้เดินทางไปพื้นที่ที่มีการระบาด, ผู้หญิงตั้งครรภ์, และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยเรื้อรังหรือผู้ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ไข้, อ่อนเพลีย, คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร และอาการเกี่ยวกับตับ เช่น ตัวเหลือง, ตาเหลือง, ปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา ในรายรุนแรงอาจเกิด ตับวายเฉียบพลัน, น้ำในช่องท้องหรือปอด, และภาวะช็อกในหญิงตั้งครรภ์
การวินิจฉัย ทำได้โดยตรวจเลือด พบค่าเอนไซม์ตับสูง (AST, ALT) และตรวจหา แอนติบอดี IgM หรือ PCR ของไวรัส HEV
การรักษา ส่วนใหญ่เน้นการดูแลอาการและสนับสนุน เช่น พักผ่อน, รับประทานอาหารย่อยง่าย, ติดตามค่าเอนไซม์ตับ และรักษาภาวะแทรกซ้อน เช่น น้ำในปอดหรือภาวะช็อก สำหรับผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำหรือรุนแรง อาจใช้ Ribavirin
การป้องกัน ทำได้โดยล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังอาหาร, กินอาหารสุกและดื่มน้ำสะอาด, หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ดิบหรือกึ่งสุก โดยเฉพาะหมู ปลา และหอย และระวังอาหารและน้ำเมื่อเดินทางไปพื้นที่ระบาด
ข้อควรระวังสำคัญ ผู้หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนและอัตราตายสูง ส่วนผู้ป่วยตับเรื้อรังต้องระวัง เพราะไวรัสอาจทำให้อาการรุนแรง
แหล่งที่มาอ้างอิง
Mayo Clinic – Hepatitis E: Symptoms & Causes
Centers for Disease Control and Prevention (CDC) – Hepatitis E
หนังสือ “Viral Hepatitis: Diagnosis, Treatment and Prevention”






