เปิดรายชื่อ 7 จังหวัด ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก และเตรียมรับมือให้ดี

7 จังหวัด ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 18 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568

7 จังหวัด ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 18 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568

 

เปิดรายชื่อ 7 จังหวัด ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก และเตรียมรับมือให้ดี

ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลอันดามันตอนบนยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 25 พ.ย. 68

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งของทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งของทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน (23 พ.ย. 68)


 

เปิดรายชื่อ 7 จังหวัด ภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก และเตรียมรับมือให้ดี

สำหรับประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และยอดภูมีอากาศหนาว ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้ง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

 

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 05.00 น

 

 

ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

 

 

ภาคกลาง

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

 

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส     
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร 

 

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาค : อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
ตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักมากบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 25-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

 

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


 

 

กรุงเทพและปริมณฑล

มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.