- 07 ธ.ค. 2568
ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช สวนมุมมองตร. ปมเหมารวม LGBTQ รุนแรง ชี้ “ผู้ชายต่างหากตัวดี” พร้อมอธิบายเหตุผลทางวิวัฒนาการว่าทำไมโลกต้องมีความหลากหลายทางเพศ
วันที่ 7 ธ.ค. 2568 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท เผยแพร่ความเห็นผ่านเพจเฟซบุ๊ก “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” หลังรับชมวิดีโอสัมภาษณ์ตำรวจอาวุโสรายหนึ่ง ที่ระบุว่า “คดีฆาตกรรมเกิดจากกลุ่ม LGBTQ มาก เพราะอารมณ์รุนแรง”
อาจารย์สุรัตน์ชี้ว่า เมื่อเช้า เปิดดู video การให้สัมภาษณ์ของ ตำรวจอวุโสท่านนึง ท่านบอกว่า คดีฆาตกรรม นั้น เกิดจาก กลุ่ม LGBTQ มาก เพราะว่าอารมณ์รุนแรง อาจารย์ว่า ท่านมองด้วยสายตาที่แคบไปและมีอคติ ไม่ใช้ สถิติ เป็นการมองแบบเข้าข้างเพศตาม physical gender เพศทางกายภาพ คิดว่า หากใจคิดเป็นอีกเพศ และ กายเป็นอีกเพศ คือไม่ปกติ นั้นเป็นความคิดของ physical gender predominant จาก วิจัย [ใต้โพส comment นะครับ] “Comparison of Sexual Violence Perpetration Rates Among Gay, Lesbian and Heterosexual Cisgender Adults” Sex Res Social Policy. 2024
สรุปแบบนี้ ข้อค้นพบหลัก ผู้ชาย (ไม่ว่าจะเกย์หรือไม่) มีแนวโน้มก่อเหตุสูงกว่าผู้หญิง ความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่ “เพศ” ไม่ใช่ “รสนิยม” lesbian มีอัตราสูงกว่าหญิงทั่วไป แต่ยังน้อยกว่าผู้ชาย
สรุป ผู้ชาย อะตัวดี ยิ่งสงสัยนะ ถ้า ยิ่งมีความเป็นผู้ชายสูงจัดๆ จะยิ่งทำร้ายมากไหม ?
และงานวิจัยต่างประเทศ ชี้ชัดนะ เค้าหนะคือเหนื่อความรุนแรงด้วยซ้ำ จากพวกมี อคติ แบะทำให้คนบางกลุ่มมีความกดดันและความเครียด จากความไม่เท่าเทียม
วันนี้อยากให้เปลี่ยนความคิด และคิดใหม่ว่า จริงๆ LGBTQ นั้น คือการเกิดโดยธรรมชาติ เหมือนผู้หญิงและผู้ชายนั่นเอง และนี่คือเพศที่ 3 อย่างแท้จริง
จะเล่าให้ฟัง
“ทำไมโลกนี้มี LGBTQ?” ในแง่ของวิวัฒนาการ (Evolution) คือหากเรามองในดวงตาของวิทยศาสตร์ที่เรียนมา การมี LBGTQ ฟังดูเหมือนจะขัดแย้งกับหลักพื้นฐานของธรรมชาติอยู่ใช่ไหมครับ?
เพราะถ้ามนุษย์วิวัฒนาการมาเพื่อ “สืบพันธุ์และดำรงเผ่าพันธุ์” แล้วทำไมยังมีคนที่รักเพศเดียวกัน หรือมีอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์อยู่ด้วย?
คำตอบคือ
ธรรมชาติไม่ได้สนใจแค่การสืบพันธุ์ (ซึ่งมันเป็นหลักการของการขยายเผ่าพันธุ์ในแนวดิ่ง) ครับ แต่มันซับซ้อนกว่านั้น LGBTQ กับคำตอบคือวิวัฒนาการ ไม่ได้ขัดแย้งเลย แต่มันเป็นส่วนหนึ่ง
คือ หลายคนอาจเคยได้ยินว่า “การรักเพศเดียวกันไม่ใช่ธรรมชาติ เพราะสืบพันธุ์ไม่ได้” แต่ความจริงแล้ว… พฤติกรรมรักเพศเดียวกันพบในสัตว์กว่า 1,500 สปีชีส์ เช่น ลิง โลมา ห่าน เพนกวิน ฯลฯ
นั่นหมายความว่า ธรรมชาติ “เลือกเก็บ” พฤติกรรมนี้ไว้ในหลายสายพันธุ์... ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือผิดพลาด มันมีเหตุผลในตัวของมัน วิวัฒนาการ “เก็บ” LGBTQ ไว้เพื่ออะไร?
มาทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ ว่า วิวัฒนาการไม่คัดเลือกแค่ “คนที่มีลูกได้” อย่างตัวผู้ ผสมพันธุ์กับตัวเมีย หรือ ชาย แต่งงานมีลูกกับหญิง วิวัฒนาการ (โดยเฉพาะตามแนวคิดของดาร์วิน) เลือก “ลักษณะที่ช่วยให้เผ่าพันธุ์อยู่รอดและแข็งแรง” ไม่ใช่แค่ใครมีลูกมากที่สุด (คนมีลูกมาก ลูกโง่ และทำให้เผ่าพันธุ์ไม่แข็งแรงมีมากมาย) แต่ LGBTQ มีเหตุทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์แข็งแรง “Gay Uncle Hypothesis” – ญาติที่ไม่สืบพันธุ์ แต่ช่วยเลี้ยงลูกหลาน
สมมติว่ามีชายคนหนึ่งไม่สืบพันธุ์เอง แต่ช่วยเลี้ยงดูหลาน ๆ หรือช่วยเผ่าพันธุ์ให้รอดจากอันตราย มีความเมตตาและทรัพยากรที่ไม่ต้องใช้เลี้ยงลูกของตัวเอง วิวัฒนาการอาจ “ชอบ” บทบาทแบบนี้ครับ เพราะมันเพิ่มโอกาสรอดของญาติที่มีพันธุกรรมใกล้เคียง
พูดง่าย ๆ คือ “ฉันไม่ต้องมีลูกเอง แต่ช่วยให้ลูกพี่สาวพี่ชายโตขึ้นมาได้ดี”= ช่วยส่งต่อพันธุกรรมทางอ้อม และเชื่อไหม เค้าก็ทำได้ดีเลยด้วย เพราะมีความเป็นแม่ผสมพ่อ พูดง่าย ๆ มีทั้งความอ่อนโยนและเด็ดเดี่ยว
ยีนที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ อาจมีข้อดีในอีกเพศ มีบางสมมุติฐานว่า ยีนที่เกี่ยวกับพฤติกรรมรักเพศเดียวกันในผู้ชาย อาจทำให้ “ผู้หญิงในครอบครัว” มีความสามารถในการสืบพันธุ์สูงขึ้น
ตัวอย่างเช่น ในครอบครัวที่มีเกย์ อาจพบว่า ผู้หญิงในตระกูลมีลูกมากกว่าเฉลี่ยของประชากร ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ยีนที่ “ไม่ก่อให้เกิดลูกในบางคน” ก็ยัง “ส่งต่อได้” ผ่านญาติที่มีลูกมากกว่า ก็เห็นจริง ๆ เรียกว่า เป็น สายใย หรือ เรียกแม่สื่อแม่ชัก เราก็เห็น เป็นที่ปรึกษาก็ได้
นอกจากนี้ ความหลากหลายทำให้เผ่าพันธุ์มีความยืดหยุ่น สังคมมนุษย์ไม่ใช่แค่เรื่องสืบพันธุ์ แต่มีการช่วยเหลือ แบ่งหน้าที่ และพัฒนาอย่างซับซ้อน คนที่มีมุมมองแตกต่าง หรือมีบทบาทเฉพาะตัว เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การแสดงออก ความเห็นอกเห็นใจ ฯลฯ
อาจมีบทบาทสำคัญในชุมชนแม้ไม่ได้มีลูก หลายงานวิจัยพบว่า LGBTQ มีแนวโน้มสูงในด้านความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ หรือการสื่อสาร ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่วิวัฒนาการอาจ “เลือกไว้” เพื่อให้เผ่าพันธุ์ปรับตัวได้ดีในโลกที่เปลี่ยนแปลง อาจารญ์มี เพื่อน รุ่นน้องที่เป็น LGBTQ คือ ก็โคตรเก่ง และมีความสุข เป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในชายหรือหญิง นี่คือการเติมเต็ม
แล้วทำไม LGBTQ ถึงมีสัดส่วนน้อยหละในเมื่อเป็นตามธรรมชาติ?
คำตอบคือ วิวัฒนาการมัก “ปรับสมดุล” ครับ หากมีมากเกินไปจนกระทบต่ออัตราการสืบพันธุ์ เผ่าพันธุ์ก็จะเสี่ยง แต่ถ้ามี “พอดี” เพื่อช่วยเติมเต็มระบบสังคม – ธรรมชาติก็เก็บไว้เป็น “กลไกเสริม”
ประมาณว่า… ไม่ต้องมีเยอะ แต่มีแล้วมีคุณค่า “วิวัฒนาการไม่ได้เลือกลักษณะที่ ‘เหมือนคนส่วนใหญ่’ แต่มันเลือกลักษณะที่ ‘ทำให้ทั้งกลุ่มอยู่รอดได้ดีที่สุด’”
ความหลากหลายไม่ใช่ความผิดปกติ แต่คือ “แผนของธรรมชาติ” ที่ช่วยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงอยู่... และอยู่ได้อย่างมีสีสัน ทุกอย่างมีเหตุผลเสมอ และเราต้องให้เกียรติกัน เข้าใจ มุมมองธรรมชาติ อย่ามองในมุมที่ตีบแคบของตัวเอง เพราะความนั้นของเราหนะแหละที่ผิดเพี้ยนไป รุ้งที่เกิดตามธรรมชาติ ก็มีหลากสีเช่นกัน
- อจ สุรัตน์
ปล อจ ไม่ขอพูดเรื่อง คดี อะไรนั้นที่เป็นกระแสแล้วนะครับ แค่นี้ พ่อแม่พี่น้องเค้า ก็เสียใจพอแล้ว
ขอบคุณ สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์






