ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ยุทธวิธี FPV UAV ของ กพช. และข้อแนะนำการปฏิบัติ

ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ยุทธวิธี FPV UAV ของ กพช. และข้อแนะนำการปฏิบัติ 

1.พฤติกรรมของข้าศึก
2.ภัยคุกคามที่ตรวจพบ
3.ข้อเน้นย้ำและการปฏิบัติ

 

1. พฤติกรรมของข้าศึก 

กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการโจมตี โดยหันมาใช้ โดรนแบบ First-Person View (FPV UAV) ซึ่งเดิมเป็นโดรนที่ใช้สำหรับการแข่งขันหรือเพื่อความบันเทิง แต่ถูกดัดแปลงให้เป็นอาวุธโจมตีที่มีความร้ายแรงและประสิทธิภาพสูง

การดัดแปลงและใช้งาน:

• ต้นทุนต่ำ: โดรน FPV มีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย และสามารถประกอบหรือดัดแปลงติดตั้งวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง (Improvised Explosive Devices - IEDs) หรือกระสุนขนาดเล็กได้
• ความแม่นยำสูง: ด้วยระบบ FPV ทำให้นักบินสามารถควบคุมโดรนได้เสมือนการนั่งอยู่ในห้องนักบิน ทำให้สามารถบินด้วยความเร็วสูง เข้าถึงเป้าหมายได้ในระดับต่ำ และพุ่งชนเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
• การล่องหน (Stealth): โดรน FPV มีขนาดเล็ก สร้างเสียงรบกวนน้อย และสามารถบินจากระยะไกลและในระดับต่ำ ทำให้ยากต่อการตรวจจับด้วยสายตาหรือระบบเรดาร์มาตรฐาน
• การโจมตีแบบสละชีพ (Kamikaze/Loitering Munition): รูปแบบการโจมตีส่วนใหญ่คือการพุ่งชนเป้าหมายเพื่อจุดชนวนระเบิด ซึ่งสร้างความเสียหายต่อยานพาหนะหรือกำลังพลได้ทันที

เป้าหมายหลัก:

• ยานพาหนะหุ้มเกราะ (โดยเฉพาะจุดอ่อน เช่น หลังคา)
• ฐานปฏิบัติการ/จุดเฝ้าตรวจ
• กลุ่มกำลังพลที่รวมตัวกัน
   

 

2. ภัยคุกคามที่ตรวจพบ

ภัยคุกคามจาก FPV UAVs มีลักษณะที่แตกต่างจากภัยคุกคามทั่วไปอย่างชัดเจน:

• ความเร็วและการตอบสนอง: โดรน FPV สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 100-150 กม./ชม. ทำให้มีเวลาในการตอบสนองต่อการแจ้งเตือนสั้นมาก (วินาที)
• การทะลุทะลวง: ถึงแม้โดรนจะบรรทุกระเบิดขนาดเล็ก แต่การพุ่งชนด้วยความเร็วสูงสามารถสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์หรือยานพาหนะที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อต้านทานการโจมตีจากด้านบนได้
• การโจมตีหลายทิศทาง (Swarm Attack): กพช. อาจใช้โดรนหลายลำโจมตีพร้อมกันจากหลายทิศทางเพื่อสร้างความสับสนและเพิ่มโอกาสในการทะลุทะลวงการป้องกัน

ความท้าทายในการต่อต้าน:

• การตรวจจับ: ระบบเรดาร์ภาคพื้นดินทั่วไปมีข้อจำกัดในการตรวจจับวัตถุขนาดเล็กที่บินต่ำ
• การทำลาย: การใช้ปืนหรืออาวุธขนาดเล็กต่อต้านโดรนที่บินเร็วในระยะประชิดเป็นเรื่องยาก

 

3. ข้อเน้นย้ำและการปฏิบัติ (มาตรการรับมือ)

การรับมือกับภัยคุกคาม FPV UAVs ต้องอาศัยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี ความตระหนัก และการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี

3.1. ข้อเน้นย้ำด้านความตระหนักและการป้องกัน (Detection & Prevention)

• การระวังภัย 360 องศา: เน้นการเฝ้าระวังท้องฟ้าและพื้นที่สูงรอบตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะระหว่างการเคลื่อนย้ายหรือหยุดพัก
• การอำพราง (Concealment): ลดการรวมตัวของกำลังพลเป็นกลุ่มใหญ่ และใช้การอำพรางทั้งทางสายตา (พรางตัว/หลบเข้าที่กำบัง) และการใช้มาตรการลดการปล่อยสัญญาณความร้อนและคลื่นวิทยุ (EMCON)
• การใช้ที่กำบัง (Cover): เมื่อตรวจพบ ให้รีบเข้าที่กำบังที่มีความแข็งแรงและมีการป้องกันด้านบน (Overhead Cover) ทันที (เน้น: หลังคารถยนต์ทั่วไปไม่เพียงพอ)

 

 

ยุทธวิธี FPV UAV เป็นการยกระดับภัยคุกคามที่ต้องรับมือด้วย การตระหนักรู้ที่รวดเร็ว (Speed of Recognition) และ มาตรการป้องกันแบบผสมผสาน (Hybrid Countermeasures) ทั้งทางอิเล็กทรอนิกส์และทางกายภาพ การฝึกซ้อมการตอบสนองที่รวดเร็วต่อการแจ้งเตือนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลดความสูญเสีย

ที่มาจาก : กองทัพภาคที่ 2