- 10 ธ.ค. 2568
"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" โพสต์ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดชายแดน นักการเมืองบางส่วนยังใช้วิกฤตเป็นเวทีหาเสียง ทั้งที่ประเทศต้องการความเป็นหนึ่งเดียวมากที่สุด
"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" โพสต์ข้อความล่าสุด ระบุผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุ
.
นักการเมืองหยุดหาเสียง
.
การเมืองมีฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน
.
โดยปกติฝ่ายรัฐบาลทำอะไร ฝ่ายค้านต้องคอยแย้งไม่เห็นด้วย
.
ในช่วงนี้ที่ นายกฯ อนุทิน ทิ้งการเจรจา และให้รบปะทะกับเขมร
.
ได้ใจประชาชน
.
แล้วก็มีฝ่ายค้านอย่างคุณเท้ง พรรคประชาชน
.
บอกว่าต้นตอการปะทะครั้งนี้ และทุกครั้งเกิดจากฮุนเซนต้องการปกป้องสแกมเมอร์
.
ล่าสุดที่ ปปง. อายัดเงินหมื่นล้านของ เบน สมิธ ก๊กอาน ยิมเลียก เฉินจื้อ ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปหยกๆ
.
คุณเท้งยังบอกว่า ฮุนเซนเบี่ยงประเด็น พลิกสถานการณ์ที่โลกล้อมกัมพูชาเรื่องสแกมเมอร์ ให้กลายเป็นโลกมาล้อมไทยที่รังแกรุกรานประเทศที่อ่อนแอกว่า
.
และสรุปว่า “หยุดเดินอ้อม ต้องพุ่งเป้าสู่แกนกลางปัญหา พลิกวิกฤตเป็นโอกาสหยุดชนชั้นนำที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน
.
หยุดสร้างสงครามเพื่อกลบเกลื่อนอาชญากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อ โดยใช้เลือดเนื้อของทหาร และประชาชนเป็นตัวประกัน”
.
นี่คือสิ่งนักการเมืองอย่างเท้ง พยายามจะหาเสียงเสียมากกว่า
.
หยุดความเห็น และตั้งสมมติฐานที่แตกต่างเสียก่อน
.
เพราะมันไม่ใช่เวลาหาเสียง หรือขัดแย้งกันเอง
.
ณ เวลานี้ ประเทศต้องการความสามัคคีอันแน่วแน่
.
ในเมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงมาก่อน
.
ภาวะผู้นำอย่างอนุทิน ขณะนี้ไม่มีทางเลือกมากนัก
.
นอกจากย้ำว่า “ปกป้องอธิปไตย“
.
แม้เข้าใจได้ว่า ”สงครามจะสร้างวีรบุรุษ ให้ นักการเมืองใช้ในการหาเสียง“
.
แต่มันย่อมไม่ใช่เวลาที่จะมาท้วงติง
.
เพราะมันเป็นเวลาที่จะต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อต่อต้านผู้รุกรานอธิปไตยเสียก่อน
.
พรรคประชาชนในสมัยพิธาหาเสียงก็บอกประชาชนว่า
.
“ไม่มีการรุกรานประเทศที่อยู่ใกล้ๆ กัน มันไม่มีทะเลาะกันแล้ว บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพแล้วด้วย”
.
สิ่งที่พิธา พรรคก้าวไกล เคยพูดไว้ กับตอนนี้ที่ เท้ง พรรคประชาชนเพิ่งพูดไป
.
ผมว่าหยุดพูดก่อนดีกว่า
.
เป็นเวลาที่นักการเมืองควร “ปิดปาก” ไว้
.
และปล่อยให้ทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย






