จับฝูงโดรน 2,500 ลำ ป่วนพื้นที่ชั้นใน คล้ายโมเดลยูเครนโจมตีรัสเซีย

ฝูงโดรนโผล่ป่วนสุวรรณภูมิ "กสทช. บูรณาการหน่วยงานความมั่นคง เข้าตรวจยึดสกัดฝูงโดรนกว่า 2,500 ลำ ลักษณะคล้าย "โมเดลยูเครนโจมตีฐานทัพรัสเซีย

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. พบโดรนต้อนสงสัยขึ้นบินใกล้สุวรรณภูมิ มีลักษณะคล้าย "โมเดลยูเครนโจมตีฐานทัพรัสเซีย" จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง โดยร่วมกันประเมินความเสี่ยงอาจถูกลำเลียงซุกซ้อนเข้ามาทางบก ก่อนนำขึ้นบินภายในประเทศ และอาจเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ จึงจำเป็นต้องดำเนินการสะกัดตั้งแต่ต้นทาง

จับฝูงโดรน 2,500 ลำ ป่วนพื้นที่ชั้นใน คล้ายโมเดลยูเครนโจมตีรัสเซีย

ล่าสุด กองทัพภาคที่2 เผยว่า หน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการตรวจยึดโดรนต้องสงสัยกว่า 2,500 ลำ และอยู่ระหว่างตรวจสอบ รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบ ต่อไป

 

ทั้งนี้ กสทช.ได้เข้าตรวจค้นจับกุมโดรนติดกล้องพร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ชั้นใน คือ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งสองจุดมูลค่า 12,370,800 บาท

  • จุดที่ 1 พบโดรนพร้อมแบตเตอรี่  จำนวน 2,553 เครื่อง รวมมูลค่า 3,838,800 บาท
     
  • จุดที่ 2 พบโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องที่กระทำความผิด จำนวน 1,628 เครื่อง รวมเป็นเงิน 8,532,000 บาท 

 

จับฝูงโดรน 2,500 ลำ ป่วนพื้นที่ชั้นใน คล้ายโมเดลยูเครนโจมตีรัสเซีย

วิธีสังเกต “โดรน” หรือ “เครื่องบิน” หรือ “ดวงดาว”

กะพริบต่างกันอย่างไร ?
เมื่อพบวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นโดรน

  • บันทึกเพื่อยืนยัน
  • สร้างจุดอ้างอิง
  • มือต้องนิ่ง


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.68  นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ทสภ. ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยยืนยันการดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานการบินสากลอย่างเข้มงวด มีการตอบสนองต่อเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว และบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคง ทหาร และตำรวจ ในการเฝ้าระวังพื้นที่โดยรอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและผู้ใช้บริการ

 

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ภายหลัง ทสภ. ได้รับรายงานการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (Drone) บริเวณใกล้เขต ทสภ. ตั้งแต่คืนวันที่ 20 ธันวาคม 2568 ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนเผชิญเหตุและแผนรักษาความปลอดภัยสนามบินอย่างเคร่งครัด และประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ตรวจสอบทันที ต่อมาในคืนวันที่ 21 ธันวาคม 2568 มีรายงานพบการบินของอากาศยานไร้คนขับในพื้นที่โดยรอบซึ่งอยู่ห่างจากจุดเดิมออกไป จากการประเมินสถานการณ์ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการขึ้น – ลงของอากาศยาน ตารางเที่ยวบิน และการให้บริการผู้โดยสารแต่อย่างใด

จับฝูงโดรน 2,500 ลำ ป่วนพื้นที่ชั้นใน คล้ายโมเดลยูเครนโจมตีรัสเซีย

ทั้งนี้ ทสภ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับกองทัพบก กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์ตรวจจับและต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti-Drone) ควบคู่กับการเพิ่มกำลังสายตรวจรถยนต์ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเพิ่มความถี่และวงรอบการตรวจตราพื้นที่โดยรอบแนวรั้วสนามบิน รวมถึงการเฝ้าสังเกตการณ์ผ่านระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ตลอด 24 ชั่วโมง


นอกจากนี้ ทสภ. ยังได้ซักซ้อมและทบทวนแผนปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมยืนยันว่าการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นไปตามมาตรฐานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

จับฝูงโดรน 2,500 ลำ ป่วนพื้นที่ชั้นใน คล้ายโมเดลยูเครนโจมตีรัสเซีย

การบินอากาศยานไร้คนขับใกล้เขตสนามบินเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในรัศมี 9 กิโลเมตร ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย โดยหากเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ผู้ฝ่าฝืนมีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต พร้อมขอความร่วมมือประชาชน

 

หากพบเห็นสิ่งผิดปกติสามารถแจ้ง ศูนย์สุวรรณภูมิ โทร. 0 2132 4000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทสภ. ยืนยันให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย และมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการดูแลผู้โดยสารและการเดินอากาศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ผู้ใช้บริการ และสนับสนุนภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างยั่งยืน