- 28 ธ.ค. 2568
แก๊งโจรแสบ จ้างหนุ่มโกนหัว ปลอมตัวเป็นเจ้าอาวาสวัดดัง สวมรอยเปิดบัญชีธนาคาร ก่อนลอบโอนเงินกว่า 1.8 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มรับจ้างโกนหัว ห่มจีวรปลอมเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ เปิดบัญชีให้แก๊งต้มตุ๋นโยกเงินความเสียหายกว่า 1.8 ล้านบาท กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์ และ พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.5 บก.ป., ว่าที่ พ.ต.ท.กิติบดินทร์ กิมเซียะ, ว่าที่ พ.ต.ต.ชนกันต์ บุรผากา สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.ธนโชติ ภุชชงค์, ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา และ ร.ต.ท.เรวัต ห้วยหงษ์ทอง รอง สว.กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายมานพฯ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1472/2562 ลงวันที่ 24 ก.ย. 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท" สถานที่จับกุม สภ.กำแพงแสน หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากธนาคารผู้เสียหาย กรณีมีกลุ่มมิจฉาชีพทำเป็นขบวนการวางแผนจ้างวานบุคคลให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร โดยใช้วิธีการตบตาเจ้าหน้าที่ธนาคาร ด้วยการปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายได้จ้างวานนายมานพฯ ผู้ต้องหาคดีนี้ ให้ทำการโกนศีรษะและโกนคิ้ว พร้อมแต่งกายห่มจีวรเลียนแบบพระสงฆ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นได้พาไปถ่ายรูปเพื่อนำไปใช้จัดทำ "หนังสือสุทธิพระปลอม" โดยระบุชื่อเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ (ระดับเจ้าอาวาส) แล้วนำเอกสารปลอมดังกล่าว ไปยื่นขอเปิดบัญชีธนาคารเล่มใหม่กับทางธนาคาร จนเจ้าหน้าที่หลงเชื่ออนุมัติให้เปิดบัญชี
เมื่อได้บัญชีใหม่แล้ว กลุ่มคนร้ายได้ดำเนินการโอนเงินจากบัญชีเดิม ที่มีอยู่จริงของพระเถระรูปนั้นเข้ามายังบัญชีที่นายมานพฯ สวมรอยเพิ่งเปิดใหม่ แล้วรีบดำเนินการถอนเงินสดออกจากระบบทันทีจนเกลี้ยงบัญชี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.8 ล้านบาท โดยนายมานพฯ ได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไปซ่อนตัวทำงานรับจ้างนานกว่า 10 ปี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบสวนติดตามตัวและเข้าจับกุมได้ในที่สุด สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอเตือนภัย
1. ห้ามรับจ้างเปิดบัญชีเด็ดขาด : การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตน (บัญชีม้า) ไม่ว่าจะได้ค่าตอบแทนมากน้อยเพียงใด ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ระวังโทษหนักจากการปลอมเอกสาร : การปลอมแปลงเอกสารราชการ หรือการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์เพื่อไปหลอกลวงผู้อื่น เป็นความผิดอาญาที่มีโทษจำคุกเพิ่มเติมจากการฉ้อโกง
3.อย่าเห็นแก่เงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อย : เงินค่าจ้างเพียงหลักพันหรือหลักหมื่น ไม่คุ้มค่ากับอนาคตที่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาและต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งนับล้านบาท
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.ชนกันต์ บุรผากา สว.กก.5 บก.ป. โทร.064-445-4244
"การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันอันตรายในรู้แบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาสยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชล ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างตน"





