ส่องชีวิตปัจจุบัน น้องๆ หมูป่าอคาเดมี หลังภารกิจถ้ำหลวง ล่วงเลยมาเกือบ 5 ปี

ส่องชีวิตปัจจุบัน น้องๆ หมูป่า อคาเดมี หลังภารกิจถ้ำหลวง ล่วงเลยมาเกือบ 5 ปี : เชื่อว่าหลายคนยังจำกันได้อย่างดีแน่นอนกับภารกิจ ช่วยเหลือ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวงเมื่อเดือน มิ.ย. 2561 ที่ตอนนั้นได้กลายเป็นที่จับตาของคนทั้งโลก เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ชะตากรรมของทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี จนกระทั่งมีการระดมนักดำน้ำถ้ำมือฉมังจากทั่วโลก มายังประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือพวกเขาที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน

 

และในที่สุด โลกก็ได้เห็นภาพ ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี และโค้ชของพวกเขา ได้รับการช่วยเหลืออกมาทีละคน ด้วยการวางยาสลบ และพาดำน้ำออกมาจากในถ้ำ ซึ่งสำหรับเหล่าเด็กชาย อายุระหว่าง 11-16 ปีใน (ขณะนั้น) การรอดชีวิตของพวกเขาเปิดม่านสู่ความท้าทายครั้งใหม่ นั่นคือการรับมือกับความสนใจของสื่อทั่วโลกต่อเรื่องราวของพวกเขา

 

ภายหลังภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่านานเกือบ 3 สัปดาห์ องค์กรสื่อทั่วโลกพยายามเก็บรายละเอียดประสบการณ์ของพวกเขาในทุกแง่มุม อย่างเมื่อปี 2562 ทีมฟุตบอลหมูป่าตกลง ผ่านการเจรจาของรัฐบาลไทยให้สิทธิ์ทำสัญญาสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับทีมหมูป่าอะคาเดมีแก่บริษัท SK Global Entertainment โดยไม่อนุญาตให้ผู้อื่นสัมภาษณ์เด็กได้โดยตรงโดยไม่ผ่านบริษัท ซึ่งเด็กๆ มีรายได้ราว 3 ล้านบาทต่อคน

 

กระทั่งซีรีส์ความยาว 6 ตอนของเน็ตฟลิกซ์ ได้เริ่มสตรีมมิงไปทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ชื่อของทีมหมูป่าเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง และในปีเดียวกัน ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เรื่อง Thirteen Lives กำกับโดย รอน โฮเวิร์ด ได้ออกฉายเช่นกัน
 

อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ น้องไตตั้น หรือ ชนินทร์ วิบูรณ์รุ่งเรือง อดีตนักฟุตบอลทีมหมูป่าที่อายุน้อยที่สุด บอกกับทีมข่าวบีบีซีว่า เขาพบว่า ความสนใจของสังคมต่อชีวิตของพวกเขา หลังรอดจากถ้ำหลวงออกมานั้น มีความท้าทาย

"ช่วงแรกๆ ก็ยาก ต้องปรับตัวเรื่องคนรู้จักมากขึ้น ไม่รู้จะวางตัวยังไง เกร็งเวลาเจอกล้อง มาสัมภาษณ์" ไตตั้น กล่าว

สี่ปีผ่านมานับแต่ปฏิบัติการถ้ำหลวง ไตตั้นยังเล่นฟุตบอลในทีมที่ควบคุมโดย โค้ชเอก เอกพล จันทะวงษ์ ที่เคยติดอยู่ในถ้ำหลวงกับพวกเขา ซึ่งในเวลานั้น เอกพลในวัย 25 ปี มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเด็กๆ ให้สงบสติภายในถ้ำที่มืดมิด ด้วยการฝึกนั่งสมาธิ ทำให้ไม่ตื่นตระหนกจนใช้ออกซิเจนมากเกินไป

 

ในช่วงเวลาที่พวกเขาได้รับการช่วยเหลือออกมาจากถ้ำหลวง โค้ชเอก และทีมหมูป่า 3 คน รวมถึง ด.ช. มงคล บุญเปี่ยม เป็นบุคคลไร้สัญชาติ แม้ว่าจะเกิดในประเทศไทย แต่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น พวกเขาได้รับสัญชาติไทยในที่สุด ซึ่งหลังรอดชีวิตออกมาจากถ้ำหลวง โค้ชเอก จัดตั้งโรงเรียนสอนฟุตบอลของตนเอง เพื่อฟูมฟักความสามารถของเยาวชนไทย

 

"ภูมิใจครับกับน้องๆ บางคน เขาได้ไปทำตามเป้าหมาย หลายคนมีเป้าหมายเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หลายคนก็อยากเรียนให้จบสูง ๆ ตอนนี้ ทุกคนก็ได้ทำหน้าที่ของใครของมัน" โค้ชเอก ให้สัมภาษณ์กับ บีบีซี เมื่อเดือน ก.ค. ปี 2565

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเด็กที่เคยไร้สัญชาติ คือ ด.ช.อดุลย์ สามอ่อน ซึ่งเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวที่พอจะพูดภาษาอังกฤษได้ และเป็น น้องอดุลย์ เองที่ทักทายทีมนักดำน้ำถ้ำต่างชาติ ในห้วงเวลาที่เข้าไปถึงจุดที่ทีมหมูป่าติดอยู่ ลึกเข้าไปภายในถ้ำ และเป็นผู้ถ่ายทอดคำแนะนำของนักดำน้ำแก่เพื่อนร่วมทีม

 

เมื่อปี 2565 นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า น้องอดุลย์ ที่พูดได้ 5 ภาษา กำลังศึกษาอยู่ในนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา โดยได้รับทุนการศึกษาเต็ม ซึ่งผู้ปกครองและอาของเขา บอกกับนิวยอร์กไทมส์ว่า น้องอดุลย์ อยากทำงานในสหประชาชาติ

"เด็กๆ กำลังเดินหน้าไปในเส้นทางของตนเอง บางคนอยากเรียนต่อ บางคนอยากเล่นฟุตบอล พวกเขายังพูดคุยกับ ส่งข้อความหากัน เพื่อบอกเล่าประสบการณ์" ญาติๆ ของน้องอดุลย์ อธิบาย

นอกจากนี้ยังมี พรชัย คำหลวง อดีตทีมหมูป่าอีกคน เป็นหนึ่งในคนที่เลือกเส้นทางกีฬาอาชีพ โดยเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรฟุตบอลเชียงราย ล้านนา ในไทยลีก 3

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งข่าวที่ทำให้หลายๆ คนต่างตกใจและช็อกไม่แพ้กัน เมื่อมีรายงานการเสียชีวิตของ น้องดอมหมูป่า หรือ ดวงเพชร พรหมเทพ ในเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 ซึ่ง น้องดอมก็เป็นอีกคนที่ทำความฝันของตนเอง ด้วยการไปฝึกฝนทักษะด้านฟุตบอลที่ต่างประเทศ และมีความฝันว่าอยากติดทีมชาติ แต่สุดท้าย...น้องก็ยังเดินตามความฝันไม่สำเร็จ 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline