แฟนบอลไทย มีแววไม่ได้ดูช้างศึกป้องแชมป์ฟุตบอลชิงอาเซียน2022

ยังไงกัน? แฟนบอลไทย จะไม่ได้ดูช้างศึกป้องฟุตบอลชิงอาเซียน2022 ลือหนักค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแพงลิบ ไม่มีใครกล้าสู้

การถ่ายทอดสดฟุตบอล ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหากับประเทศไทยจริงๆ จากที่ก่อนหน้านี้ ก็มีปมดราม่าถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ที่ตอนนี้ได้คู่ชิงชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว แต่พี่ไทยก็ยังไม่หาข้อสรุปเคลียร์ดราม่าดังกล่าวไม่ได้เสียที และล่าสุดมีประเด็นใหม่มาให้ได้ลุ้นกันอีกแล้ว แฟนบอลไทย มีแววไม่ได้ดูช้างศึกป้องแชมป์ฟุตบอลชิงอาเซียน2022 

แฟนบอลไทยลุ้นต่อไป มีแววไม่ได้ดูช้างศึกป้องฟุตบอลชิงอาเซียน2022

 

 

โดย บอลไทย ที่แฟนๆ กำลังจะได้เชียร์นักเตะทีมชาติไทยลงสนามนั้น ก็มีโปรแกรมป้องกันแชมป์อาเซียน รายการ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริค คัพ 2022 (AFF Mitsubishi Electric Cup 2022) ทว่า คอบอลไทยกลับต้องมาตามลุ้นแบบวันต่อวันว่า จะได้ชมถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงอาเซียน2022 หรือไม่ เนื่องจาก ยังไม่มีใครคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด


ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี รับหน้าที่ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงอาเซียนให้ได้ชมกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ วิกหมอชิตเพิ่งจะหมดสัญญาไป และตอนนี้ยังไม่มีกระแสข่าวที่ชัดเจนว่า ใครจะซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ซึ่งอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ การแข่งขันศึกศักดิ์ศรีนี้ก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้วด้วย 


และแม้ว่า การถ่ายทอดสดหนล่าสุดทางช่อง 7 จะทำเรตติ้งได้สูงเป็นประวัติการณ์ ทว่าไม่นานมานี้ มาดามแป้ง นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้อ้อนผ่านสื่อขอให้ผู้ใหญ่ใจดี ทั้ง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้ช่วยเหลือ

แฟนบอลไทยลุ้นต่อไป มีแววไม่ได้ดูช้างศึกป้องฟุตบอลชิงอาเซียน2022

 

อีกทั้งยังมีกระแสข่าวลืออย่างหนักว่า ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน แพงลิบจนไม่มีใครกล้าสู้ แต่ ผู้ว่าการ กกท. ได้ยืนยันออกมาแล้วว่าไม่ถึง 100 ล้าน แต่อาจจะมากกว่า 50 ล้านบาท พร้อมทั้งบอกมาด้วยว่า โอกาสที่คนไทยจะได้ ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 นั้นเป็นไปได้ทั้ง ได้ชม และ ไม่ได้ชม แต่ตอนนี้กระแสยังเงียบๆ เพราะมีบอลโลกอยู่

 

พร้อมกันนี้ยังมีรายงานอีกด้วยว่า มีหลายช่องสนใจ แต่ปัญหาอยู่ที่ราคาสูง  เมื่อซื้อแล้วจะทำการตลาดอย่างไร เพราะการจะขายโฆษณานั้น ผู้สนับสนุนก็เพิ่งเอาเงินไปลงกับฟุตบอลโลก ตรงนี้คือโจทย์ใหญ่ หากซื้อมาจะหาผู้สนับสนุนไหวไหม แต่จะต้องมีกระแสหนักหากจะไม่มีการถ่ายทอดสดศึกอาเซียน

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับศึกชิงแชมป์อาเซียน รอบแรก ทีมชาติไทย ในฐานะทีมแชมป์เก่า อยู่ในกลุ่มเอ ซึ่งโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน จะเริ่มขึ้นวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ไทย พบ บรูไน (เยือน เตะที่มาเลเซีย), วันที่ 26 ธันวาคม 2565 ไทย พบ ฟิลิปปินส์ (เหย้า), วันที่ 29 ธันวาคม 2565 ไทย พบ อินโดนีเซีย (เยือน) และ วันที่ 2 มกราคม 2566 ไทยพบ กัมพูชา (เหย้า)

แฟนบอลไทยลุ้นต่อไป มีแววไม่ได้ดูช้างศึกป้องฟุตบอลชิงอาเซียน2022

ภาพจาก ช้างศึก

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline