"โค้ชวัง"ยอมรับหนึ่งสิ่งที่เป็นรองเวียดนาม หลังวืดทองซีเกมส์

ศึกฟุตบอลซีเกมส์ 2025 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.68 ระหว่าง ทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์ 16 สมัย พบ เวียดนาม คู่ปรับตลอดกาลร่วมอาเซียน ซึ่งผลการแข่งขันทีมชาติไทยเป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 2-0 ก่อนจะถูก ทัพดาวทอง ไล่ตีเสมอ 2-2  จนต้องต่อเวลาพิเศษ สุดท้ายเป็น เวียดนาม ไล่ยิงแซง ฟุตบอลทีมชาติไทย เอาชนะ ไป 3-2 คว้าเหรียญทองซีเกมส์ เป็นสมัยที่ 4  

หลังจบเกม โค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันฟุตบอลชายในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รอบชิงชนะเลิศ

เกมดังกล่าว ทีมชาติไทย พ่าย เวียดนาม 2-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และได้เหรียญเงิน ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งนี้

"ต้องขอโทษแฟนบอลทุกท่านและทางผู้บริหารด้วยเพราะว่าเป้าหมายของเราคือต้องการแชมป์แต่ครั้งนี้เราพลาดเป้าไป ต้องขอบคุณทางสโมสรที่ให้ความร่วมมือปล่อยนักเตะมาช่วยทีมชาติในครั้งนี้ ผมมองว่าหากแพ้จริงๆแล้วมันต้องโทษผม ทั้งเรื่องแทคติกหรืออะไรต่างๆ เพราะว่าน้องๆทุกคนทำอย่างเต็มที่แล้ว รวมถึงเราได้รับการสนับสนุนจากทั้งสโมสรและผู้บริหารเป็นอย่างดี แต่การไม่ถึงเป้าในครั้งนี้ผมน้อมรับ ที่เราไม่สามารถคว้าแชมป์ซีเกมส์ในบ้านได้" โค้ชวัง กล่าว

“ผมว่ามันเป็นโมเมนตัมของทีม ที่เราเสียชนภัช(บัวพันธ์)ในช่วงครึ่งแรก ส่วนครึ่งหลังเราเสียประตูเร็ว ทำให้โมเมนตัมกลับไปอยู่ที่ฝ่ายตรงข้าม แน่นอนว่าทุกคนพยายามเต็มที่แล้ว และสามารถยื้อถึงต่อเวลาต้องชื่นชมน้องๆด้วยสภาพจิตใจและอะไรต่างๆพวกเขาทำได้เต็มที่แล้ว”

“อยากขอโทษแฟนบอลที่วันนี้ไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ทุกคนมีเป้าเดียวคือต้องการเป็นแชมป์ แต่ครั้งนี้เราไม่สามารถเป็นแชมป์ได้ผมในอนาคตต้องรับผิดชอบ เราพยายามจะโรเตชั่นนักเตะให้ได้มากที่สุดในก่อนเกมวันนี้ เพื่อที่นัดชิงเขาจะได้มีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ที่สุด

 

แต่วันนี้ทุกคนทำได้ดีต้องยอมรับว่าน้องๆมีสภาพจิตใจที่สู้แต่ด้วยสภาพร่างกายที่อาจจะใช้งานมาหนัก ทั้งการกลับไปแล้วใช้สโมสรและกลับมารับใช้ทีมชาติด้วย น้องๆเองก็พยายามเต็มที่แล้ว”

“ครึ่งหลังเราโดนจุดโทษทำให้ไล่มาเปิดประตูเดียวซึ่งโมเมนตัมกับอยู่ทางฝั่งของเวียดนาม รวมถึงเขาเองมาได้ลูกสองด้วย จริงๆวางไว้ที่อยากจบใน 90 นาที เพราะผมรู้ว่าหากต้องยืนระยะไปสภาพร่างกายของเวียดนามจะพร้อมมากกว่า"

โดยหลังจากนี้ ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ จะมีการประชุมเพื่อสรุปผลงาน และวางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ ต่อไป ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 6-24 มกราคม 2569