มาทำความรู้จัก... "ว่านดอกทอง"ที่สุดแห่งว่านมหาเสน่ห์ สรรพคุณ เมตตามหานิยม จาก ละคร "นาคี"

               จากละครนาคี ละครที่ได้ขึ้นชื่อว่า เรตติ้งสูงสุดในขณะนี้ ที่เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น กำลังดำเนินมาใกล้จะจึงตอนอวสาน เนื้อหาคร่าวๆ ว่าด้วยเรื่องของความเชื่อเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพญานาค พิธีกรรมต่างๆ เครื่องรางของขลัง หรือ แม้กระทั้งเรื่อง “ว่าน” พืชที่ขึ้นชื่อเรื่องความขลังทางทนสิทธิ์ และสรรพคุณชั้นยอดนานาประการ โดยก่อนหน้านี้เราเคยได้ชม สรรพคุณของ ว่านพญาลิ้นงู ในละครนาคีตอนต้น มาแล้ว (ย้อนอ่าน “ว่านพญาลิ้นงู” คลิ้งที่นี้) มาครั้งนี้ในตอนท้ายเรื่อง เราได้เห็นสรรพคุณ ของว่านอีกชนิดหนึ่ง นั่นคือ “ว่านดอกทอง” ที่นางลำเจียก ได้สูดดมเข้าไปจนเกิดอาการ อย่างที่ชมกันไปในละคร

        "ว่านดอกทอง"หรือ "ว่านรากราคะ" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma spp. เป็นพืชอยู่ในวงศ์ซิงจิเบอร์เรซี (Zingiberaceae) ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับขิง ถือเป็นว่านโบราณหายาก และใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว โดยในประเทศไทยสามารถพบ "รากราคะ" ได้ที่ภาคตะวันตก และภาคเหนือ เช่น ในจังหวัดกาญจนบุรี ตาก และลำปาง

สรรพคุณว่านดอกทอง

                ว่านดอกทอง เป็นว่านมหาเสน่ห์มหานิยม โดยเชื่อว่าเมื่อดอกบานที่ให้กลิ่นหอม หากชายหรือหญิงได้กลิ่นจะทำให้กระตุ้นความกำหนัดทางเพศได้ จึงเรียก “ว่านมหาเสน่ห์” โดยจะเป็นที่นิยมปลูกไว้ใกล้บุรุษมากกว่าสตรี เพราะ สำหรับสตรี หากนำหัวว่าน ใบ และต้นว่านดอกทอง มาใส่ไว้ในโอ่งน้ำหรือในบ่อน้ำ แล้วรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศรุนแรงมาก หรือเพียงแค่ปลูกไว้แล้วได้กลิ่นของดอกโชยมา ก็ชวนให้หลงใหลมัวเมาในกามโลกีย์ได้แล้ว จึงมีความเชื่อต้องเด็กดอกทิ้งเสีย

              เมื่อเป็นเช่นนี้จึงนิยมนำว่านดอกทองนี้มาทำวัตถุมงคลประเภทเมตตามหานิยม โดยเฉพาะพระเครื่องที่นิยมนำส่วนดอก ใบ และเหง้า ใช้เป็นส่วนผสมสำหรับในการทำพระเครื่อง ส่วนของดอก และเหง้านิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย นำมันนวด ใช้ทาผม ทาผิว ทาริมฝีปาก เป็นน้ำมันมหาเสน่ห์  หรือ ลูกอมสีผึ้ง นำมาใช้บดรวมกับสีผึ้งทาปาก ใช้น้ำมันทาตัว เมื่อถึงคราวจะไปพบหญิงสาว สตรีคนใดที่ต่อคารมด้วยเมื่อได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง ก็มักจะใจอ่อนคล้อยตามโดยง่าย และนับว่าเป็นว่านเสน่ห์มหานิยมที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก

                นอกจากเรื่องกามารมณ์แล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการค้าขายอีกด้วย ด้วยเชื่อว่าหากร้านค้าขายใดมีว่านดอกทองตัวเมียปลูกไว้หน้าร้าน จะช่วยทำให้ค้าขายดี มีลูกค้าเข้าออกร้านไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานบันเทิงต่าง ๆ ร้านจำหน่ายเหล้าเบียร์ ด้วยเป็นว่านเมตตามหานิยม จึงมีการนำมาใช้ในทางค้าขาย การเจรจาตกลง ช่วยทำให้ประสบผลสำเร็จได้โดยง่าย โดยใช้หัวว่านนำมาโขลกให้ละเอียดผสมกับสีผึ้งนำมาใช้ทาปากก่อนจะออกไปพบปะเจรจา

               แต่ไม่ควรปลูกว่านชนิดนี้ไว้ในบ้าน ด้วยเชื่อว่ามันอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการผิดลูกผิดเมียของคนในครอบครัวได้ เพราะคนไทยสมัยก่อนนั้นจะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่

                การปลูกไว้ในบ้านมีความเชื่อเรื่องเมตตามหานิยมทำให้ผู้คนเคารพ รักใคร่ แต่บางตำรากล่าวถึงเรื่องอับประมงคลที่ไม่ควรปลูกไว้ในบ้าน เพราะอาจทำให้สามีหรือภรรยาเกิดความนอกใจกัน

                        วิธีการปลูกว่านดอกทอง ควรปลูกวันจันทร์ข้างขึ้น แล้วรดน้ำที่เสกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ 3 จบ การปลูกจะใช้กระถางใบเล็กทรงเตี้ยในการปลูก ใส่ดินดำหรือดินดินทรายผสมกับใบไม้ผุ และรดน้ำให้มาก แต่อย่าให้ดินแฉะ หากใส่ปุ๋ยคอกลงไปด้วยเล็กน้อยจะช่วยทำให้ว่านงอกงามเร็วยิ่งขึ้น เมื่อใบตั้งตรงแข็งแรงแล้วจึงค่อยย้ายมาปลูกในกระถางใหญ่เพื่อจะทำให้หัวว่านมีขนาดใหญ่ขึ้น และควรจัดวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดรำไรพอสมควร

จินต์จุฑา สำนักข่าวทีนิวส์ เรียบเรียง